รัฐบาลจีนปล่อยผีใบอนุญาตเกมออนไลน์ใหม่แล้ว หลังหยุดไป 9 เดือน เต็มเพราะเจอปัญหาเด็กจีนติดเกมหนัก สายตาเสีย ไม่ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ทยอยให้ใบอนุญาตแล้ว 400 เกม จากที่รอคิวอยู่มากกว่า 7,000 เกม
ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า การระงับออกใบอนุญาตเกมออนไลน์ใหม่ของรัฐบาลจีนที่กินระยะเวลา 9 เดือน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเกมออนไลน์ทั้งระบบ กดให้หุ้นกลุ่มบริษัทดังกล่าวปรับตัวลดลงต่อเนื่อง นำโด่งโดยเทนเซ็นต์ (Tencent) ผู้ประกอบการไอทียักษ์ใหญ่ของจีน เจ้าของแพลตฟอร์ม Wechat, JOOX และเป็นเจ้าตลาดเกมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เฉพาะในปี 2560 เทนเซ็นต์มีส่วนแบ่งตลาดเกมออนไลน์บนมือถือในจีนทั้งสิ้น 42%
หน่วยงานกำกับดูแลด้านสื่อของรัฐบาลจีน เพิ่งให้ใบอนุญาตเกมใหม่อีกครั้งเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา หลังยุติการให้ใบอนุญาตเป็นเวลา 9 เดือน ทำให้ขณะนี้ มีเกมที่ต่อคิวรอใบอนุญาตมากกว่า 7,000 เกม
อย่างไรก็ตาม ในบรรดาเกมที่ทางการจีนทยอยให้ใบอนุญาตนั้น เกมของเทนเซ็นต์ เจ้าตลาดรายใหญ่ เพิ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 2 เกม
ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ทันทีที่สามารถเปิดตัวเกมใหม่ออกสู่ตลาด นักลงทุนก็ให้การต้อนรับหุ้นของเทนเซ็นต์ที่ซื้อขายอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงทันที โดยราคาหุ้นทะยานขึ้นไป 4.1% จากปีที่แล้วที่ราคาตกลงไปทั้งสิ้น 25%
อย่างไรก็ตาม ข่าวระบุว่า เทนเซ็นต์ยังคงรอคอยการให้ใบอนุญาตเกมออนไลน์ยอดนิยมบนมือถืออีกหลายรายการ ยกตัวอย่างเช่น Player Unknown’s Battlegrounds ซึ่งเชื่อว่าเปิดตัวออกขายได้เมื่อไร ราคาหุ้นและผลประกอบการน่าจะทะยานได้แบบตัวจริงเสียงจริง
นอกจากเทนเซ็นต์แล้ว NetEase บริษัทเกมออนไลน์ยักษ์ใหญ่อีกเจ้าของจีน ก็เพิ่งได้รับใบอนุญาตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน
...
ซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า หลังปล่อยผีใบอนุญาตเกมใหม่ปลายปีที่แล้ว รัฐบาลจีนอนุมัติใบอนุญาตไปทั้งสิ้นราว 400 เกม ยังเหลืออีกหลายพันที่รอคิวพิจารณาอยู่
ย้อนหลังกลับไป 9 เดือนที่แล้ว รัฐบาลยุติการให้ใบอนุญาตเกมใหม่ เพราะต้องการลดการติดเกมในเยาวชนลง โดยพบว่าเด็กจีนติดเกมงอมแงม สายตาเสียเพราะจ้องแต่หน้าจอ และขอร้องให้ผู้ปกครองใส่ใจ กระตุ้นเด็กให้ออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งให้มากขึ้น
นโยบายดังกล่าวสั่นสะเทือนธุรกิจเกมออนไลน์ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ในทันที ยกตัวอย่างเทนเซ็นต์ เมื่อปีที่ผ่านมากำไรรายไตรมาสของบริษัท ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี
ทั้งนี้ จีนถือเป็นตลาดเกมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่าในปี 2561 ที่คาดว่าจะแตะ 38,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท (ตัวเลขจากบริษัทวิจัย Newzoo)