ในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค Digital Transformation อย่างเต็มรูปแบบ กระแสการมาของเทคโนโลยีในอนาคต 5G จึงเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจะกลายเป็นทรัพยากรด้านโครงข่ายพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ช่วยให้องค์กร ภาคธุรกิจและประชาชน สามารถสร้างโอกาสจากผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค รวมถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

เอไอเอส ในฐานะผู้นำนวัตกรรมเครือข่าย อันดับหนึ่งของประเทศไทย ที่มุ่งพัฒนาเครือข่ายและสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง หลังประสบความสำเร็จกับการจัดทดสอบ 5G เป็นรายแรก เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา จึงไม่รอช้าจัดโชว์สาธิตเทคโนโลยี 5G ให้คนไทยได้สัมผัสกันต่อเนื่อง ในงาน 5G The 1st Live in Thailand by AIS : Episode 2 กับ 5G โชว์เคสที่ล้ำยิ่งกว่า และตอบโจทย์ความสนใจในมิติต่างๆ อย่างครบถ้วน ผ่านการสาธิตการใช้เทคโนโลยี 5G อันล้ำสมัย และการผสมผสานขีดความสามารถจากเอไอเอส ทั้งด้านความเร็วสูง, เชื่อมต่อด้วยความหน่วงต่ำ และการขยายการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่ออุปกรณ์ หรือ IoT ที่ไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน มาจัดแสดงให้คนไทยได้ร่วมทดสอบศักยภาพ 5G บนสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้คนไทยและทุกภาคอุตสาหกรรมเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และเตรียมความพร้อมองค์กรให้สอดรับกับเทคโนโลยีอนาคต

โดยมีไฮไลท์เด่นที่ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำ 5 โซนด้วยกัน ที่พร้อมให้ทุกท่านเข้ามาเรียนรู้ สร้างความเข้าใจเทคโนโลยี 5G ในทุกมิติ โดยมี 5G Mentor ทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำอธิบายตลอดงาน ประกอบด้วย…

1. 5G Super Speed ที่สุดของความเร็ว 5G ที่มากกว่า 19 Gbps

ใครที่ยังคาดเดาไม่ออกว่าความเร็วของ 5G จะเร็วแรงได้ขนาดไหน และแตกต่างจาก 4G ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้แค่ไหน เอไอเอสก็เปิดให้ทดสอบความเร็วของ 5G ในงานนี้ด้วย และแตกต่างยิ่งกว่า ด้วยแนวคิดการนำเทคโนโลยี Multipath TCP ที่ AIS มีอยู่เพียงรายเดียวในไทย หรือที่เรียกว่า NEXT G มาผสมผสานบนระบบ 5G สามารถทำให้เกิดความเร็วใหม่ที่เร็วแรงยิ่งกว่า Standard ของ 5G ไปอีกขั้น หรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็น NextG+ ที่ให้ความเร็วมากกว่า 19 Gbps ซึ่งเร็วกว่า 4G เกือบ 20 เท่า

2. 5G Connected Drone อีกขั้นของการใช้โดรนบังคับผ่านมือถือ

ฉีกกฎการบังคับโดรนของผู้ให้บริการทุกรายไปเลย เมื่อเอไอเอสจัดสาธิตการควบคุมโดรนระยะทางไกลผ่านเครือข่ายมือถือเป็นครั้งแรก ซึ่งคนควบคุมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกับโดรน ครั้งนี้ เลยจัดโชว์การบังคับโดรนผ่านเครือข่ายมือถือข้ามประเทศ ระหว่างไทยและจีน กันไปเลย ด้วยโดรนตัวแรกที่ใส่ซิมการ์ด!!! ซึ่งผู้บังคับโดรนก็นั่งควบคุมอยู่ที่ AIS D.C. เอ็มโพเรียมนี่แหละ แต่โดรนบินเก็บภาพอยู่ที่จีน!!! ขณะเดียวกัน โดรนก็สามารถ Streaming video ที่มีความละเอียดสูงกลับมาหาผู้ใช้งานได้ทันที ทำให้เห็นว่าเมื่อในวันที่ 5G เกิดขึ้นจริงๆ แล้ว ข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการใช้งานและสัญญาณรบกวนจะหมดไป อีกทั้งสามารถนำโดรนมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การขนส่ง, การเกษตร, ความปลอดภัยสาธารณะ, การกู้ภัย, การตรวจดูงานในโรงงานหรือพื้นที่เสี่ยง เป็นต้น

3. 5G Cloud Virtual and Augmented Reality ที่สุดของความบันเทิงเหนือจินตนาการ

เป็นอีกโซนที่สายเกมเมอร์ต้องกรีดร้องให้กับเทคโนโลยี 5G ที่เอไอเอสนำ 2 เกมแอ็กชั่นท้าดวลความมันส์ มาให้ทุกคนสัมผัสความล้ำในรูปแบบของ 5G Cloud Virtual and Augmented Reality โดยใช้จุดแข็งของ 5G เรื่องการตอบสนองที่รวดเร็ว มาผนวกกับการเก็บข้อมูลมหาศาลไว้บน Cloud ทำให้เกิดมิติใหม่ของการเล่น AR, VR รวมถึง MX ด้วย ส่งผลต่อโมเดลการสร้างตลาด AR และ VR ในอนาคต จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด เห็นแบบนี้แล้วผู้ผลิตอุปกรณ์หรือคนครีเอตคอนเทนต์ VR ต้องมองหาโอกาสจากการมาของ 5G หน่อยแล้วล่ะ!

4. 5G Wireless to the home ที่สุดของความแรงบรอดแบนด์ไร้สาย

อีกสิ่งหนึ่งที่ 5G จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเลยก็คือ เมื่อมี 5G เข้ามาแล้วการติดต่อสื่อสารและการรับส่งข้อมูลคอนเทนต์สามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว และลดขีดจำกัดในการเดินสาย อีกทั้งช่วยเสริมบริการ Fiber Broadband ให้แข็งแกร่งและครอบคลุมมากขึ้นอีกด้วย โดยเป็นการใช้งานผ่านอุปกรณ์ CPE ตัวรับสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในบ้าน ที่รองรับคลื่นความถี่ 5G ย่าน mmWave เชิงพาณิชย์ตัวแรกของโลก ตามมาตรฐาน 3GPP ที่ทำความเร็วได้สูงถึง 2 Gbps ทำให้ไม่ว่าผู้ใช้บริการจะอยู่หลืบมุมใดของโลก จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น เกาะ ภูเขา หรือชนบท ก็สามารถสื่อสารถึงกันได้อย่างไรขีดจำกัด

5. 5G Internet of Things ที่สุดของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT มากกว่า 10 เท่า

เคยได้ยินเรื่อง IoT มามากแล้ว คราวนี้มาดูแนวคิดใหม่ของ IoT บน 5G กับเทคโนโลยีที่เรียกว่า 5G V2X (Vehicle to Everything) กันบ้าง ซึ่งมันก็คือ ยานยนต์สามารถสื่อสารกับทุกสรรพสิ่งได้ ไม่ว่าจะการสื่อสารระหว่างยานยนต์กับยานยนต์, ยานยนต์กับคนที่เดินบนท้องถนนผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, ยานยนต์กับไฟจราจร และยานยนต์กับเครือข่าย จะผ่านการประมวลผลบน cloud เพื่อช่วยเรื่องความปลอดภัยในการคมนาคม, เพิ่มประสิทธิภาพการจราจร และประหยัดพลังงาน อย่างเรื่องยานยนต์ไร้คนขับนี้ก็จำเป็นต้องใช้งานผ่านโครงข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงและเรียลไทม์มากๆ คุณสมบัติของ 5G เรื่องการตอบสนองที่รวดเร็วจะทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริง

โดยก่อนหน้านี้ เอไอเอสได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการโทรคมนาคม จัดทดสอบ 5G เป็นรายแรกให้คนไทยได้สัมผัสไปแล้ว ในงาน 5G The 1st Live in Thailand by AIS : Episode 1 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน - 15 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือกับโนเกีย ผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลก สาธิต 5G ผ่าน 5 รูปแบบนวัตกรรมสุดล้ำ ครั้งแรกของเมืองไทย ประกอบด้วย

1. 5G Super Speed

แสดงศักยภาพที่สำคัญของเครือข่าย 5G เช่น ความเร็วในการรับส่งสัญญาณ (Throughput) และความหน่วง (Latency) บูธนี้นำเสนอโดย การปล่อยสัญญาณ 5G ผ่านเสาอากาศ ไปหาเครื่องมือถือ ซึ่งเป็นอุปกรณ์มือถือต้นแบบ (Prototype) ที่มีชิปเซต รองรับ 5G โดยไม่ได้ใช้อุปกรณ์พิเศษ เพื่อจำลองให้ผู้บริโภคได้เห็นถึงสภาวะแวดล้อมเสมือนจริงของการทำงานของสถานีฐานในการส่งสัญญาณผ่านอากาศไปยัง Handset 5G ต้นแบบ ทำให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงประสบการณ์จริง ว่าเมื่อเครือข่าย 5G มาถึง ความเร็วที่ได้รับผ่านมือถือจริงๆ นั้น จะมีความเร็วที่สูงระดับ Gigabit และความหน่วง (Latency) ที่ต่ำในระดับ 5ms

2. 5G Ultra Low Latency – Cooperative Cloud Robot

การสาธิตประสิทธิภาพการตอบสนองที่รวดเร็วของเครือข่าย 5G โดยการใช้หุ่นยนต์สามตัวในการหาจุดสมดุล ที่ทำให้ลูกบอลอยู่กึ่งกลางกระดาน การสาธิตแสดงเวลาที่หุ่นยนต์ใช้ในการหาจุดสมดุลผ่านการสื่อสารระหว่างกันโดยใช้เครือข่าย 4G เปรียบเทียบกับเครือข่าย 5G ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพด้านความเร็วที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

3. 5G for Industry 4.0

แน่นอนว่าเมื่อเข้าสู่ยุค Digital Transformation แล้ว นวัตกรรมหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ในการทำงานร่วมกับคนและเครื่องจักรจากสายการผลิตต้องการการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความหน่วงต่ำและความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งจะทำให้สายการผลิตทำงานได้เร็วขึ้น ยืดหยุ่น แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

4. 5G Virtual Reality – immersive video

นวัตกรรมที่จะตอบสนองดูวิดีโอ ด้วยการแสดงสภาวะเสมือนจริง (immersive video) ผ่านเครือข่าย 5G ผู้ที่ใส่แว่นตา VR จะสามารถมองเห็นได้รอบด้าน 360 องศา การดูวิดีโอ VR ที่มีความคมชัด ต้องการ bandwidth ที่สูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นการถ่ายทอดสด หรือ Live Streaming

5. 5G FIFA Virtual Reality

นวัตกรรมด้านกีฬา จากความเร็วของเครือข่าย 5G เช่น การเตะลูกบอล Virtual Reality ที่จุดโทษผ่านเครือข่าย 5G

ทั้งนี้ นายวสิษฐ์ วัฒนศัพท์ หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการและสนับสนุนด้านเทคนิคทั่วประเทศ เอไอเอส ได้เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้สนใจในงานนี้ด้วย พร้อมเผยถึงความสำเร็จหน้าใหม่ที่เอไอเอสได้ทดสอบ 5G ครั้งแรกในไทย ว่า “การสาธิตเทคโนโลยี 5G Episode 1 เป็นรายแรกของไทย ในช่วงที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นไปตามเป้าหมายของการศึกษา วิจัย เทคโนโลยี 5G ในมิติต่างๆ อย่างครบถ้วนและลึกซึ้ง ทั้งเรื่องความเร็ว, การตอบสนอง และการสนับสนุน IoT รวมถึงสร้างกระแสความตื่นตัวให้กับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม วงการการศึกษาและอีโคซิสเต็มของธุรกิจโทรคมนาคมเป็นอย่างมาก ในฐานะที่ 5G คือ โอกาสครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมชีวิตคนไทยและอุตสาหกรรมไปอีกขั้น โดยเราแสดงให้เห็นภาพการประยุกต์ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ด้วยการสาธิตในสภาวะแวดล้อมเสมือนจริง ทั้งการใช้อุปกรณ์ที่มี Handset 5G ต้นแบบ รวมถึง Terminal หลายรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติมากกว่า และเห็นภาพการมอบประสบการณ์จริงไปยังผู้บริโภคได้ชัดเจนกว่า

ดังนั้น การทดสอบ 5G Episode 2 ในครั้งนี้ จึงมีแนวคิดที่แตกต่างและ Beyond มากขึ้น โดยเราตั้งใจที่จะศึกษา นำขีดความสามารถและศักยภาพของเอไอเอสที่มีอยู่ มาทดลองผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยี 5G เพื่อจะได้เห็นผลในเชิงรูปธรรมว่า ในวันที่ 5G มาจริงๆ เราจะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่แตกต่างจากรายอื่น และสร้าง more value ที่จะยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของคนไทย และพลิกโฉมการทำงานของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมไปอีกขั้น และเพื่อเป็นการยืนยันว่า เอไอเอสไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาและแสวงหานวัตกรรมใหม่ๆ มาให้คนไทยได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่เหนือชั้นก่อนใครในโลก เตรียมพบกับการทดสอบ 5G Episode 3 ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน”

งานนี้ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของแวดวงเทเลคอมของไทย ที่เอไอเอสตั้งใจนำเอาเทคโนโลยีการใช้ 5G ในมิติต่างๆ มาให้คนไทยได้สัมผัสก่อนใคร เพื่อให้เกิดการเตรียมความพร้อมในการศึกษาหาแนวทางการนำ 5G มาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับประเทศไทย

เชิญคนไทยมาร่วมทดสอบและเปิดมุมมอง 5G ด้วยตัวคุณเอง ได้แล้ววันนี้ที่ AIS D.C. ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม ตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2562 แล้วคุณจะรู้ว่า 5G ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวอีกต่อไป!