เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา แอปเปิลจัดงาน Apple Special Event October 2018 เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์อีกครั้งในนิวยอร์ก ซึ่งเราเชื่อว่าหลายคนคงได้ยินข่าวนี้กันมาบ้างแล้วเกี่ยวกับ iPad Pro, Mac Mini และ Macbook Air ตัวล่าสุด...
วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะมาสรุปไฮไลต์เด็ดเกี่ยวกับงานที่เปิดตัวที่ว่านี้ โดยเฉพาะกับ 3 ผลิตภัณฑ์ล่าสุด ว่าดีกว่าตัวเก่าอย่างไร
iPad Pro ใหม่ จอใหญ่เต็มหน้า
มีให้เลือกทั้งรุ่น 11 นิ้วและ 12.9 นิ้วมาพร้อมกับจอภาพ Liquid Retina ชิพ A12X Bionic และเพิ่มความสามารถให้ปลดล็อกด้วย Face ID
จะเห็นได้ว่าไอแพดรุ่นใหม่นี้มีดีไซน์ใหม่ด้วยการลดขอบเครื่องลง วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตัดขอบ ไม่มีปุ่มโฮมด้านล่าง เพราะใช้การปลดล็อกแบบเดียวกับ iPhone ตระกูล X มาพร้อมกับช่องต่อ USB-C ใหม่ เพื่อรองรับการชาร์จเร็ว, การชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นๆ, การต่อจอนอก 5K หรือแม้แต่การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ
...
ส่วนขุมพลัง A12X Bionic ขนาด 7 นาโนเมตรนี้ จะทำให้ iPad Pro 2 รุ่นนี้ทรงพลังมากขึ้น เนื่องจากทำให้ประสิทธิภาพของกราฟิกเร็วขึ้นถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า (เร็วขึ้น 1,000 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad รุ่นแรก)
มี 2 สีให้เลือกคือ สีเงินและ สีสเปซเกรย์มีความจุให้เลือกถึง 4 ระดับ ได้แก่ 64GB, 256GB, 512GB, และ 1TB ขนาด 11 นิ้ว มีราคาเริ่มต้นที่ 28,900 บาท ส่วนขนาด 12.9 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท
MacBook Air โฉมใหม่
MacBook Air ใหม่ มาพร้อมจอภาพ Retina อันงดงามขนาด 13.3 นิ้ว อีกทั้งยังมี Touch ID หรือเซ็นเซอร์อ่านลายนิ้วมือที่ผสานรวมให้เป็นส่วนหนึ่งของคีย์บอร์ด เบาและบางกว่าเดิม ขนาดตัวเครื่องโดยรวมเล็กลง 17% และบางลง 10% ซึ่งจุดที่หนาที่สุดมีขนาดเพียง .61 นิ้วเท่านั้น
โปรเซสเซอร์ Intel Core i5 เจเนอเรชั่นที่ 8, Intel UHD Graphics และหน่วยความจำระบบ 2133 MHz ขนาด 16GB นอกจากนั้น SSD ยังมีความจุสูงถึง 1.5 TB เรียกได้ว่าเร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 60% การเปิดแอพและไฟล์ต่างๆ จึงลื่นไหลและรวดเร็วกว่าที่เคย และแบตเตอรี่ที่ทางแอปเปิลเคลมว่าใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง
ตัวเครื่องของ MacBook Air ใหม่ยังทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยที่ออกแบบเฉพาะโดย Apple ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการนำอะลูมิเนียมที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้แบบ 100% เต็ม อะลูมิเนียมดังกล่าวมีความแข็งแกร่งทนทานและสวยงามเช่นเดียวกับอะลูมิเนียมปกติที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ Apple ทั้งหมด
มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีทอง สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน มี 2 ความจุให้เลือกคือ 128GB และ 256GB โดยราคาเริ่มต้นของรุ่น 128GB อยู่ที่ 42,900 บาท
...
Mac mini
ประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 6 เท่า ด้วยโปรเซสเซอร์ Intel Core รุ่นที่ 4 แบบ Quad-core และ 6-Core พร้อมความเร็ว Turbo Boost สูงสุดที่ 4.6Ghz และระบบกราฟิก Intel UHD รันด้วยระบบปฏิบัติการ macOS Mojave
ชิพรักษาความปลอดภัย Apple T2 หน่วยความจำความจุสูงสุด 64GB ที่รวดเร็วขึ้น อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลประสิทธิภาพสูงแบบ Flash และอัดแน่นด้วยพอร์ตอันล้ำสมัย ซึ่งประกอบด้วย Thunderbolt 3 สี่พอร์ต, USB-A 2 พอร์ต, พอร์ตวิดีโอ HDMI, พอร์ตเสียง และพอร์ต Ethernet สูงสุด 10Gbps
มีระบบจัดเก็บข้อมูลแบบแฟลช ด้วยความจุสูงสุด 2TB ทำให้ SSD บน Mac mini เร็วขึ้นกว่าเดิมถึงสี่เท่า นอกากนั้นตัวเครื่องยังทำมาจากอะลูมิเนียมอัลลอยที่ผ่านการรีไซเคิลมาใช้แบบ 100% เช่นเดียวกับ MacBook Air ใหม่
...
ราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่น 128GB อยู่ที่ 27,900 บาท
สรุป...ต้องรู้
ส่วนตัวคิดว่าสิ่งที่แอปเปิลเปิดตัวเมื่อคืนนี้ ไม่ต่างจากการคาดเดาของสื่อต่างประเทศมากนัก แต่จะมีที่น่าสนใจคือผลิตภัณฑ์เกือบทุกชิ้นมีราคาสูงขึ้นกว่ารุ่นเดิม (เมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ปกติแอปเปิลจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีราคาต่างจากรุ่นเดิมไม่มากนัก)
MacBook Air มีความน่าสนใจหลายอย่าง มองว่าหากใครกำลังมองหารุ่นใหม่ หรือถึงเวลาเปลี่ยนเครื่อง นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
เอ้า...ส่องเงินในกระเป๋า แล้วไปตำกันเท่าที่ไหวนะจ๊ะ