กระแสการต่อต้าน สกุลเงินคริปโตเคอเรนซี (cryptocurrency) หรือที่เรียกกันติดปากว่า สกุลเงินดิจิทัล ได้ลุกลามไปทั่วโลก หลังยุคเฟื่องฟูมาช่วงหนึ่งที่สร้างผลกำไรกับนักลงทุนเป็นกอบเป็นกำ ในบ้านเราเองทางรัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างออกกฎหมายมาคุมเข้มด้วยการใช้มาตรการภาษีเก็บแบบยุบยับทั้งสกุลเงินดิจิทัลเองและการระดมทุนผ่านสกุลเงินดิจิทัล (ICO)
จากผลพวงของการไม่ส่งเสริมการลงทุนทางด้านนี้ ทำให้แบงก์พาณิชย์แทบทุกแห่งก็ได้ทยอยประกาศไม่สนับสนุนและเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินดิจิทัลทุกรูปแบบและได้มีการสั่งปิดบัญชีเงินฝากตัวแทนรับซื้อขายเงินดิจิทัลไปแล้ว หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดที่มีบัญชีเงินฝากและนำไปลงทุนทางด้านนี้ทางธนาคารจะสั่งปิดบัญชีทันที
กระแสต่อต้านดังกล่าวได้ลุกลามไปทั่วโลก จากเหตุการณ์โจรกรรมเงินดิจิทัลครั้งใหญ่ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ให้ การสนับสนุนการลงทุนเงินดิจิทัลมากที่สุด ต้องเร่งตื่นตัวยกระดับความปลอดภัย ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็ได้ออกกฎกติกาเพื่อดูแลกันเองและคุ้มครองนักลงทุนมากขึ้น
ล่าสุด “กูเกิล” ได้ออกมาไม่สนับสนุนเงินดิจิทัลและไอซีโอ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไปจะไม่ได้เห็นโฆษณาผ่านกูเกิล โดยทางกูเกิลระบุว่าเป็นการกำจัดผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ควบคุมไม่ได้หรือเก็งกำไร จึงจำเป็นต้องกวาดล้างการโฆษณาผ่านเว็บไซต์ของตนเอง, ยูทูบและโฆษณาที่อยู่ในเว็บไซต์ของบุคคลที่สามผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาของกูเกิล
ความเคลื่อนไหวของกูเกิล ดูเหมือนว่าจะตามรอย “เฟซบุ๊ก” ที่ได้ประกาศห้ามโฆษณาเงินดิจิทัลและไอซีโอ โดยระบุว่าโฆษณาจะสร้างความเข้าใจผิดให้กับสมาชิกผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซึ่งมีข่าวว่าการแบนดังกล่าวมาตามแรงกดดันจากเอฟบีไอ
...
ในเวลาเดียวกัน กูเกิล ได้เผยแพร่รายงานโฆษณาประจำปี ว่าในปีที่ผ่านมาได้กำจัดโฆษณาจำนวน 3.2 พันล้านชิ้นในเว็บ เนื่องจากการละเมิดนโยบายการโฆษณาของกูเกิลมากขึ้นเกือบสองเท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ามีการระงับการโฆษณาจำนวน 79 ล้านชิ้น สำหรับเว็บไซต์ที่มีมัลแวร์ บัญชีลูกค้า 7 พันรายถูกระงับการใช้งาน และเว็บไซต์กว่า 1.2 หมื่นเว็บถูกบล็อก เพราะได้คัดลอกข้อมูลจากเว็บหรือสื่ออื่นๆ
การแบนโฆษณานี้ไม่น่าจะกระทบต่อรายได้จากโฆษณามูลค่า 95,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 2.97 ล้านล้านของกูเกิล
แต่สกุลเงินดิจิทัลและไอซีโอ ดูเหมือนไร้อนาคตในการลงทุนเพราะดูเหมือนจะไม่มีใครสนับสนุนการลงทุนทั้งจากภาครัฐ สถาบันการเงิน รวมไปถึงสื่อโฆษณา และคงไม่มีใครบ้าไปลงทุนอีกแน่นอน!
หนุ่มดิจิทัล
cybernet@thairath.co.th