ดีแทค ร่วมกับภาคเอกชนจัดงาน Education Disruption Conference and Hackathon 2018 ระดมสุดยอด องค์ความรู้ จากวิทยากรด้าน Futuristic Education ระดับโลก เพื่อผลักดันให้การศึกษาในประเทศไทยก้าวหน้าสู่อนาคตโดยใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน

เพราะปัจจุบันนี้ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเกิดขึ้นแบบก้าวกระโดดและกำลังนำมาซึ่งความท้าทายอย่างใหญ่หลวง ในแง่ของการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่สำคัญคือสังคมควรตระหนักรู้ได้ตั้งแต่ตอนนี้แล้วว่า 47% ของการจ้างงานจะหายไป และกว่า 90% ของตำแหน่งงานดั้งเดิมกำลังจะถูก Disrupt และถูกเปลี่ยนโฉมไปแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ภายใน ปี 2030

...แน่นอนว่าผู้ที่ยังต้องการอยู่ จึงต้องเริ่มปรับตัวแล้วตั้งแต่ตอนนี้

การศึกษา เปรียบเสมือนหัวใจพื้นฐานของสังคมไทยที่เราทุกคนควรร่วมมือกับเพื่อแก้ไขให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น 

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังมีการปฏิวัติการศึกษากันอย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น Computer Science for All ที่ต้องการให้เด็กทุกคนมีความเข้าใจทางด้าน Computer Science และการเขียนโปรแกรม หรือการเน้นการศึกษาทางด้าน STEAM - Science, Technology, Engineering, Art, and Mathematics และสอนกระบวนการคิดอย่างเป็นระบบ (Systematics Thinking) และ เป็น Project-Based, Play-Based Learning ที่มาปฏิวัติระบบการศึกษาดั้งเดิม จากแบบที่เป็นท่อ ทุกคนเข้า-ออกทางเดียวกัน และขยับเลื่อนชั้นพร้อมๆ กัน เปลี่ยนไปเป็นการศึกษาที่แตกแขนงกิ่งก้านไปตามเส้นทางความถนัด และเป้าหมายการเรียนรู้ของแต่ละคน (From Pipe to Personalized Learning Pathway) โดยนวัตกรรมทางการศึกษาหลายๆ อย่างนั้นก่อกำเนิดมาจาก EdTech Startup ซึ่งในต่างประเทศสามารถระดมทุนรวมกันได้ถึง 3.4 พันล้านเหรียญ ในขณะที่ EdTech Startup ไทยระดมทุนได้เพียงไม่กี่สิบล้านบาทเท่านั้น

...

ในขณะเดียวกัน การศึกษาไทยโดยรวม มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก จากผลคะแนน Pisa ล่าสุด ที่กว่า 50% ของเด็กไทย สอบตกด้านการอ่าน เพราะอ่านแล้วไม่เข้าใจ กว่า 53.8% สอบตกด้านคณิตศาสตร์ และ 46.7% สอบตกด้านวิทยาศาสตร์ เพราะไม่สามารถเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้ได้ 

ดังนั้นเพื่อช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกับวงการการศึกษาไทย Disrupt KBank และ TCP จึงประกาศเป็นเจ้าภาพจัดงาน ประชุมนานาชาติสุดยิ่งใหญ่ งาน "Education Disruption Conference and Hackathon 2018" โดยร่วมกับ TDRI, dtac, PTT และ Areeya Property เพื่อ นำวิทยากรระดับโลก และระดับประเทศ มาแชร์ Paradigm ความคิด นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางการศึกษาระดับโลกสู่เมืองไทย

โดยงานแบ่งเป็น 2 งานคือ งาน Education Disruption Conference จะจัดขึ้นในวันศุกร์ ที่ 30 มีนาคม 2561 เวลา 09.00-18.00 ณ โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ชั้น7 สยามสแควร์วัน

สำหรับบุคคลทั่วไป ลงทะเบียนฟรี!! หรือ ที่นี่ ไม่มีค่าใช้จ่าย

ส่วนงาน Edtech Hackathon จัดขึ้นในวันเสาร์ ที่ 31 มีนาคม และอาทิตย์ ที่ 1 เมษายน 2561 (2 วัน 1 คืน) ที่ ดีแทคเฮ้าส์ จามจุรีสแควร์ สำหรับ Startup และ Education Social Enterprise หรือบุคคลทั่วไปที่มีทีมงานและความมุ่งมั่นอยากทำเทคโนโลยีทางด้านการศึกษา สมัครฟรี !! ทีมละไม่เกิน 5 ท่าน พร้อมได้รับสิทธิการ Mentor อย่างใกล้ชิดจากกูรู และ Mentor ระดับโลก และระดับประเทศ

ที่น่าสนใจสุดๆ คือ งานนี้จะมี speaker ระดับโลกอย่าง Michael Staton หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกด้านการศึกษา และผู้จัดการกองทุน Learn Capital กองทุน VC เบอร์ 1 ของโลกที่ลงทุนกับ EdTech Startups ด้วยเงินลงทุนกว่าหมื่นล้านบาท ที่จะมาแชร์ในหัวข้อ “Future of Education” การศึกษาแห่งโลกอนาคตและการปฏิวัติการศึกษาเพื่อตอบโจทย์ในโลกยุค Digital Disruption อีกด้วย

ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าร่วมงานนี้ได้

ถ้าคุณเป็นคุณพ่อ-คุณแม่ ที่มีลูก คุณห้ามพลาด keynote "Creating Future Inventors - การเรียนรู้แบบไหนที่ช่วยให้ลูกคุณเป็น Innovators แห่งโลกอนาคตได้" โดย คุณ Mark Pavlyukovskyy, CEO ของ Piper บริษัท EdTech Startups ที่ผลิต Computer Education Kits สำหรับเด็ก 7+ ขวบ ที่แม้แต่ Elon Musk ยังต้องซื้อไป 8 ชิ้นเพื่อไปสอนลูกของเค้า และ Product ตัวนี้ยังได้รางวัลระดับโลกมากมาย และได้รับคำชมเชยจากคนระดับ Steve Wozniak (Woz) ผู้ร่วมก่อตั้ง Apple และปัจจุบันโรงเรียนชั้นนำกว่า 1,000 แห่งในสหรัฐอเมริกา ก็นำไปใช้ในการเรียนการสอน

...

ถ้าคุณเป็นพนักงานบริษัท คุณพลาดไม่ได้กับ Discussion Panel "Future of Work and Future of Workforce" ที่จะมีผู้บริหารระดับสูงสุดของบริษัทใหญ่ๆ ของประเทศ ที่มีการจ้างงานรวมกันหลายหมื่นตำแหน่ง มาระดมความคิดกันว่า องค์กรแห่งอนาคตหน้าตาจะเป็นอย่างไร อนาคตแห่งการทำงานจะเป็นไปในรูปแบบไหน กลยุทธ์ การ re-skill พนักงานของแต่ละบริษัทจะเป็นอย่างไร และพนักงานบริษัทต้องปรับตัวอะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรเพื่อให้เป็นผู้อยู่รอดในยุค Digital Disruption และไม่ตกงาน