ก่อนหน้านี้ เคยมีกระแสข่าวลือเกิดขึ้นมาหนหนึ่งแล้วเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้วว่า Apple Store จะมาเปิดที่ Central Embassy ห้างไฮโซย่านเพลินจิต แต่ขาเม้าท์ก็เป็นอันปิดจ๊อบ เนื่องจากไม่มี Apple Store ในห้างแห่งนี้
ขาเม้าท์หายไปปีกว่า แต่กลับมาอีกครั้งเนื่องจากเว็บไซต์รับสมัครงานของทาง Apple มีสถานที่ทำงานในประเทศไทยเกิดขึ้นมา เปรียบเสมือนการยืนยันสถานที่ตั้งของ Apple Store แล้วว่ามาแน่ๆ อีกทั้งยังมีอีก 13 ตำแหน่งที่รับสมัครพนักงานคนไทยด้วย
ล่าสุดนี้ ทาง Apple ได้ยืนยันมาแล้วว่า จะมาเปิดแน่ๆ พร้อมกล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มรับสมัครทีมงานเพื่อเปิดให้บริการ Apple Store แห่งแรกในประเทศไทย กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชียด้วยงานออกแบบและสถาปัตยกรรมที่มีชีวิตชีวา เราตั้งตารอที่จะให้บริการแก่ลูกค้าในสถานที่อันน่าทึ่ง ให้ทุกคนได้สัมผัสกับสุดยอดผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรแกรมด้านการศึกษาที่ให้แรงบันดาลใจของเรา ที่ลูกค้า Apple ทั่วโลกต่างหลงรัก” ทั้งนี้เป็นแค่การยืนยันว่า Apple Store จะมาเปิดที่ประเทศไทยแน่ๆ แต่ยังไม่มีการคอนเฟิร์มจากปากของแอปเปิลว่าเป็นที่ไหน และเมื่อไหร่
...
แต่ขาเม้าท์ทั้งหลายก็ไม่พลาดจะคาดเดากันว่า Apple Store แห่งใหม่นี้จะเปิดตัวในปี 2018 ณ ICONSIAM โครงการลงทุนที่ขึ้นชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดที่ภาคเอกชนไทยเคยทำมาในประวัติศาสตร์ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 50,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
หาก Apple Store ถูกสร้างขึ้นที่ ICONSIAM จริงตามข่าว ก็นับว่าประเทศไทยจะมี Apple Store เป็นของตัวเองสักที หลังจากประเทศอื่นๆ ในเอเชียมีกันทั่วหน้า ทั้งฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น รวมถึงที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้อย่างแอปเปิลสโตร์สาขา Orchard Road ประเทศสิงคโปร์ และสาขาที่ตึก Taipei 101 ในไต้หวัน
ทั้งนี้ ข้อดีของการมี Apple Store ในประเทศไทยคือ คนไทยจะได้รับการซัพพอร์ตในด้านการดูแล ประกันเครื่อง เคลมเครื่อง และให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ในคุณภาพระดับเดียวกับ Apple Store ทั่วโลก (นอกจากนี้การเปิดสาขาในไทยนั้นเป็นไปได้ว่าหากมีการเปิดตัวอุปกรณ์รุ่นใหม่ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะวางขายได้เร็วกว่าเดิม ไม่ต้องไปจ่ายแพงๆให้เครื่องหิ้วอีกต่อไป)
นอกจากนี้คนไทยจะได้รับการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแอปเปิลได้ครบทุกชนิด การได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เนื่อจาก position ของ Apple Store ทุกสาขาจะไม่เป็นเพียงแค่ร้านค้า แต่จะเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชน โดยเฉพาะกิจกรรม Today at Apple ที่จะเชิญผู้ที่มีความรู้-ความสามารถในแต่ละสาขาอาชีพ อาทิ ศิลปิน ช่างภาพ นักเขียน หรือนักวาดภาพ มาเล่าถึงประสบการณ์การใช้งาน ที่สำคัญคือทุกคนสามารถเข้ามาฟังได้ฟรี
นอกเหนือจากนี้ หากมีข่าวคืบหน้าใดๆ รับรองว่าไทยรัฐออนไลน์จะรีบนำมารายงานท่านผู้อ่านแน่นอน...