เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วกับการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สำหรับ "กูเกิล" บริษัทเสิร์ชเอนจินยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่ได้รับการโหวตว่า เป็นองค์กรด้านไอทีที่น่าทำงานด้วยมากที่สุด สวัสดิการดีที่สุด และมีจำนวนผู้สมัครมากที่สุดด้วยเช่นกัน
เมื่อการดำเนินงานเติบโตไปได้ด้วยดี เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กูเกิล ประเทศไทย จึงได้ถือโอกาสขยายพื้นที่ของบริษัทเพิ่มเติมไปยังชั้น 16 ของอาคารปาร์ค เวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ โดยพื้นที่ส่วนขยายนั้น จะมีหน้าตาอย่างไร ไทยรัฐออนไลน์จะพาไปชม...
หากย้อนกลับไปประมาณ 3 ปีที่แล้ว กูเกิล ประเทศไทย เปิดตัวออฟฟิศที่ชั้น 14 อาคารเดียวกัน เนื่องจากปาร์ค เวนเจอร์เป็นอาคารที่ได้ชื่อว่ารักษ์สิ่งแวดล้อม ในลักษณะ Green Office เช่นเดียวกับแนวความคิดจากบริษัทแม่ของกูเกิล อีกทั้งยังมีการตกแต่งสำนักงานให้มีความเป็นไทย ไม่ว่าจะเป็นธีม รถตุ๊กๆ ภาพวาดบนผนัง การตั้งชื่อห้อง เป็นต้น
สำหรับพื้นที่สำนักงานใหม่นี้ อาจมีขนาดเล็กกว่าเดิมเล็กน้อย เนื่องจากออฟฟิศจริงจะยังใช้สถานที่เดิม ไม่ว่าจะโต๊ะทำงาน ห้องอาหาร หรือมุมกิจกรรมบางประเภท ส่วนชั้นบนนี้ถูกจัดให้เป็นห้องประชุม และการจัดเทรนนิ่ง
...
มีอะไรใหม่ในออฟฟิศกูเกิล
1. ห้องประชุมรูปรถไฟฟ้า BTS ขนาดเล็ก จุได้ไม่เกิน 8 คน
2. ห้องประชุมขนาดกลางสำหรับ 20-22 คน
3. ห้องประชุมใหญ่ สามารถจุได้ 100 คน เพื่อการจัดสัมมนาหรือจัดเทรนนิ่ง
4. โซนคาเฟ่ตรงกลาง ให้บรรยากาศสบายๆ สามารถพาลูกค้าขึ้นมาคุยธุรกิจแบบกันเอง
5. ห้องประชุม Park มีคอนเซปต์เป็นพื้นที่เงียบสงบ เนื่องจากหากมองออกไปจะเห็นวิวต้นไม้ของสวนลุม (เสียดายที่ห้องนี้ไม่สามารถถ่ายรูปได้)
6. ตู้โทรศัพท์เก็บเสียง เป็นห้องส่วนตัว คุยความลับสุดยอดแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน
7. ชั้น 16 นี้จะมีธีมใหญ่คือ BTS เนื่องจาก BTS ในมุมของกูเกิลประเทศไทยคือการเชื่อมต่อเข้าสู่ใจกลางเมือง คนเมืองส่วนใหญ่ก็ใช้รถไฟฟ้า-รถใต้ดินในการเดินทาง ดังนั้นชื่อของห้องประชุมจึงเป็นชื่อสถานี ได้แก่ ห้องสยาม ห้องเพลินจิต และห้องชิดลม
นอกจากนี้ ระหว่างเดินสำรวจออฟฟิศใหม่แห่งนี้ ไทยรัฐออนไลน์ยังได้มีโอกาสพูดคุยกับ สายใย สระกวี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ Google ประเทศไทย ที่จะมาเล่าถึงระบบ Googliness แบบไม่มีกั๊กกันไปเลย
...
กิจกรรมสร้างความสัมพันธ์
วัฒนธรรม Googliness นี้เริ่มต้นมาจากบริษัทแม่ที่ Mountain View ด้วยตัวองค์กรที่เป็น Innovation จึงจะเห็นความสนุกสนาน ความยืดหยุ่นด้านเวลา และการประสานงานที่ดีเยี่ยมของทุกคนในองค์กร แน่นอนว่าออฟฟิศกูเกิลซะอย่าง ไม่ได้มีกิจกรรมแค่ไปเที่ยวต่างประเทศปีละครั้งแน่นอน แต่มีกิจกรรมทุกอาทิตย์! ได้แก่ คอร์สพัฒนาส่งเสริมบุคลิกภาพทุกวันอังคาร คลาสเรียนโยคะทุกวันพุธ และคลาสเต้นทุกวันพฤหัส ส่วนวันศุกร์จะเป็นวันสำคัญ เนื่องจากมีการวิดีโอคอลจากผู้บริหารในสหรัฐอเมริกา ซึ่งพนักงานทุกคนมีสิทธิ์จะถามคำถามที่ตัวเองอยากรู้ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ของคนในองค์กรระหว่างประเทศ
คนแบบไหน ที่กูเกิลประเทศไทยอยากร่วมงาน?
ไม่จำเป็นต้องจบสถาบันดัง แต่สิ่งที่ต้องมีคือความรับผิดชอบ เพราะพนักงานกูเกิลต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม เพราะกูเกิลนั้นไม่มีเวลาตอกบัตรเข้า-ออก ดังนั้นคุณจะมาทำงานกี่โมงก็ได้ แต่ด้วยความรับผิดชอบต่อตัวเองและเพื่อนร่วมทีม ทุกคนก็เข้าออฟฟิศมาทำงานด้วยกัน เพราะไม่ใช่แค่ทีมของในประเทศไทย แต่เรายังทำงานร่วมกับทีมที่อยู่ในประเทศอื่นๆ ด้วย
...
ซึ่งสายใยได้กระซิบบอกไทยรัฐออนไลน์ว่า ตอนนี้ก็เปิดรับสมัครพนักงานอยู่ ทั้งแผนกเซลส์และการตลาด เรื่องภาษาไม่ใช่ประเด็น ขอแค่สามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานและเจ้านายได้เข้าใจก็พอ ถ้าสนใจก็มาร่วมงานกันได้ ที่นี่
...
4 เรื่องหลักที่กูเกิลประเทศไทยกำลังพัฒนา
1. Education สนับสนุนด้านความรู้-การศึกษา อย่างคอนเทนต์ในยูทูบ มีการทำงานร่วมกับ ThaiMediaFund เพื่อผลักดันการให้ความรู้แก่เยาวชนไทย รวมถึงร่วมมือกับองค์กรอื่นที่สนับสนุนด้านความเทคโนโลยีให้กับสถาบันการศึกษา
2. Users การเข้าถึงผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดีจากผลิตภัณฑ์ของกูเกิล อาทิ การค้นหา แผนที่ และ GooglePlay เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์ไหนที่มีคนใช้เยอะ ก็จะถูกพัฒนาให้มีภาษาไทย เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปได้ดีขึ้น
3. SMB หรือธุรกิจขนาดกลางในประเทศไทย มีจุดประสงค์ให้ SME ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จากองค์กร เพื่อบอกว่าบริษัทมีผลิตภัณฑ์ฟรี อาทิ googlemybusiness สำหรับใช้งานตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจออนไลน์ เป็นต้น
4. Content วกกลับมาที่ Youtube เนื่องจากประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ยอดผู้เข้าชมยูทูบมากที่สุดในโลกในส่วนของ "เวลาการเข้าชม" ดังนั้นจึงเป็นช่องทางให้กูเกิลประเทศไทยอยากสนับสนุนคอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือผู้ผลิตคลิปให้มากขึ้น อาทิ กิจกรรมแฟนเฟซ ยูทูบวีค หรือว่าเทรนนิ่งคอนเทนต์สำหรับครีเอเตอร์ทั่วไป เพราะบริษัทเชื่อมั่นว่าคนไทยก็อยากดูคอนเทนต์ที่ผลิตในไทยของคนไทยด้วยกันเอง
สำหรับทิศทางในอนาคตของกูเกิลประเทศไทย ตอนนี้กำลังเร่งพัฒนาเรื่อง Voice Search ให้รองรับภาษาไทยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดำเนินตามวิสัยทัศน์จากบริษัทแม่ในการผลักดันเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้งานมากที่สุด
