ก.วัฒนธรรม เปิดแนวรุกเดินเครื่องเจรจาทวงโบราณวัตถุไทยจากต่างแดนคืนสู่ประเทศไทย หลังตรวจสอบพบโบราณวัตถุของไทย แสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์และสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา 20 แห่ง จำนวน 133 รายการ แต่ที่ยืนยันค่อนข้างชัดเจน 2 รายการ คือ ทับหลังปราสาทเขาโล้น และทับหลังปราสาทหนองหงส์...
 
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการ ประชุมคณะกรรมติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 1/2560 ว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนาม คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 143/2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เพื่อเร่งดำเนินการตรวจสอบ โบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศเพื่อกลับสู่ประเทศนั้น ที่ประชุมจึงได้วางแนวทางดำเนินการอย่างจริงจัง ซึ่งจากข้อมูลกรมศิลปากรได้สำรวจ พบว่ามีโบราณวัตถุของไทย จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์และสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา 20 แห่ง จำนวน 133 รายการ แต่ที่มีหลักฐานยืนยันค่อนข้างชัดเจน 2 รายการ ที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ ในเมืองซานฟรานซิสโก ได้แก่ ทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว เป็นศิลปะลพบุรี ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 และ 2. ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ศิลปะลพบุรี ราวพุทธศตวรรษที่ 16

รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ที่ประชุมเห็นว่า สิ่งที่ต้องดำเนินการ คือ การพิจารณาในประเด็นกฎหมายสากลที่เกี่ยวข้องกับการทวงคืนโบราณวัตถุซึ่งประเทศไทยยังไม่ได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา รวมทั้งนำมาประกอบการพิจารณาแก้ไขพ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ของไทย เพื่อจะช่วยรองรับให้ประเทศไทย เข้าร่วมภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการทวงคืนโบราณวัตถุนั้น มีหลักการสำคัญ ว่า โบราณวัตถุต้องถูกนำออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย และจะต้องมีหลักฐานและข้อมูลยืนยันอย่างชัดเจน ดังนั้น ที่ประชุมจึงเห็นควรให้ตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำรายละเอียดโบราณวัตถุ ทำหน้าที่ศึกษารายละเอียดแต่ละชิ้น อย่างไรก็ตามการทวงคืนจากสหรัฐอเมริกา ในอนาคต จะมีการประสานงานแบบรัฐต่อรัฐ โดยเฉพาะกับสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงมาตุภูมิ โดยจะมีคณะทำงานร่วมในการเจรจาคืนโบราณวัตถุและตรวจสอบการวางแผนการประมูลโบราณวัตถุของไทย ในสถาบันของสหรัฐอเมริกาที่เปิดประมูล รวม 13 สถาบันด้วย

...

"นอกจากการทวงคืนโบราณวัตถุจากสหรัฐอเมริกาแล้ว จะขยายผลการทวงคืนไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีข้อมูล รวมถึงในยุโรป โดยประสานงาน กระทรวงการต่างประเทศ ผ่านทางสถานทูต และสถานกงสุล เพื่อร่วมหาข้อมูลและตรวจสอบ ก่อนจะรวบรวมส่งมาให้คณะทำงาน ดำเนินการตามขั้นตอน นอกจากนี้ จะมีนำกระบวนการติดตามทวงโบราณวัตถุ จาก ประเทศอื่นๆ เช่น สาธารณรัฐประชาชนจีน และกัมพูชา มาเป็นกรณีศึกษาเพื่อติดตามของไทยคืนมาด้วย" รมว.วัฒนธรรมกล่าว.