สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ สัปดาห์นี้คุยกันเรื่อง การหาหลักฐานจับผิดสามีหรือภรรยา ซ่อนกิ๊ก ซ่อนชู้กันบ้างครับ มีสมาชิกหลายท่านสอบถามมายังผม เกี่ยวกับวิธีการจะจับผิดและฟ้องชู้ หรือมือที่สามที่เข้ามาสร้างความร้าวฉานให้แก่สถาบันครอบครัว ทำให้ครอบครัวที่เดิมมีแต่ความสุข เปลี่ยนเป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ไม่ไว้ใจกัน หวาดระแวง แตกแยก และทะเลาะเบาะแว้ง สร้างความเจ็บปวดให้ทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูก เด็กน้อยที่อยู่ในวัยกำลังปลูกฝังแนวคิด ต้องการความอบอุ่น แบบอย่างที่ดี และควรจดจำเฉพาะเรื่องราวดีๆ เพื่อเป็นคนดีในอนาคต
เมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามายุ่งเกี่ยวในครอบครัว สามีหรือภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายสามารถดำเนินคดีกับชายชู้หรือหญิงชู้ที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสามีหรือภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายได้ ซึ่งตามกฎหมายให้สิทธิเฉพาะสามีหรือภรรยาที่ “จดทะเบียนสมรสโดยชอบด้วยกฎหมาย” ในการดำเนินการฟ้องเรียกค่าทดแทนจากชายชู้หรือหญิงชู้ โดยไม่จำเป็นจะต้องฟ้องหย่าก่อน
ส่วนชายหญิงที่อยู่กินฉันสามีภรรยา แต่ “ไม่ได้จดทะเบียนสมรส” นั้น ไม่สามารถดำเนินคดีกับชายหรือหญิงที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสามีหรือภรรยาของตนได้ เนื่องจากกฎหมายให้ความคุ้มครองเฉพาะสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันเท่านั้นครับ
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 ใช้คำว่า “ผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น” จากบทบัญญัติของกฎหมายมิได้ระบุเพศของผู้ที่ได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากสามีหรือภรรยานะครับ ดังนั้น บุคคลที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับสามีหรือภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหากมีพฤติการณ์แสดงออกอย่างเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หรืออยู่กินกับสามีภรรยาของผู้อื่นอย่างเปิดเผย ย่อมถูกฟ้องเรียกค่าทดแทนได้ครับ
...
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 เมื่อศาลพิพากษาให้หย่ากันเพราะเหตุตามมาตรา 1516
(1) ภริยาหรือสามีมีสิทธิได้รับค่าทดแทนจากสามีหรือภริยาและจากผู้ซึ่งได้รับการอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่อง หรือผู้ซึ่งเป็นเหตุแห่งการหย่านั้น
สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่า ตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้
ถ้าสามีหรือภริยายินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตามมาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะเรียกค่าทดแทนไม่ได้

หัวใจสำคัญของคดีนี้ คือ “พยานหลักฐาน” เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับชายชู้หรือหญิงชู้ ซึ่งท่านต้องพยายามรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ได้แก่
1. ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ซึ่งแสดงให้ศาลเห็นว่ามีการโทรหากันเป็นประจำ
2. รายการเคลื่อนไหวทางบัญชี ซึ่งแสดงให้ศาลเห็นว่ามีการโอนเงินให้กันใช้ หรืออุปการะเลี้ยงดูกัน
3. ภาพถ่ายทางสื่อสังคมออนไลน์ หรือภาพแอบถ่ายโดยนักสืบ หรือภาพกล้องวงจรปิด ที่แสดงให้เห็นว่า สามีหรือภรรยากับชายชู้หรือหญิงชู้อยู่ในบ้าน หรือคอนโด หรืออพาร์ตเมนต์เดียวกัน มีการพักอาศัยและใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเปิดเผย
4. หลักฐานหรือพยานที่แสดงให้เห็นว่า ฝ่ายชู้ ทราบดีว่าฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่ตนเองเข้าไปยุ่งเกี่ยวนั้น มีครอบครัวอยู่แล้ว
5. ข้อความสนทนาของทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นข้อความโทรศัพท์มือถือ ข้อความทางแอปพลิเคชันผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
6. หลักฐานการเข้าพักตามสถานที่ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยหรือต่างประเทศ
7. หลักฐานการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต ซึ่งชี้ชัดว่าซื้อสิ่งของให้แก่ฝ่าย ชายชู้หรือหญิงชู้
8. หลักฐานการซื้อทรัพย์สิน ให้แก่ ชายชู้หรือหญิงชู้ เช่น ที่ดิน บ้าน รถ หุ้น เงินฝากในบัญชี ฯลฯ ซึ่งเกินกว่าฐานานุรูปของชายชู้หรือหญิงชู้
9. สูติบัตรหรือทะเบียนบ้านของเด็ก ในกรณีที่ชายหญิงอยู่ด้วยกันจนมีบุตร
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกครอบครัว ที่กำลังประสบปัญหามือที่สาม ขอให้ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ด้วยดี และขอให้ครอบครัวกลับมารักกันเหมือนเดิมนะครับ
สำหรับท่านที่มีคำถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องกฎหมายและต้องการความช่วยเหลือ หรือมีเรื่องราวดีๆ อยากแบ่งปันประสบการณ์ เมลมาหาผมได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยครับ
Facebook: ทนายเจมส์ LK