10 ปรากฏการณ์ "ดาราศาสตร์" ในปี 2569 ประเดิมด้วย "ดาวพฤหัสบดีใกล้โลก" รวมถึงฝนดาวตก-ดาวเคียงเดือน ที่มีให้ติดตามชมได้ตลอดปี
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เผยว่า ในแต่ละปีจะมีปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตาม และเนื่องในโอกาสปีใหม่ที่จะถึงนี้ NARIT จึงคัดสรร 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามในปี 2569 มาฝากชาวไทย ดังนี้
1. ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี วันที่ 10 มกราคม 2569
ดาวพฤหัสบดีจะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Jupiter Opposition) จึงมีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 633 ล้านกิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดคืน ปรากฏสว่างบนท้องฟ้า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายตั้งแต่ 30 เท่าขึ้นไป จะสามารถสังเกตเห็นดวงจันทร์กาลิเลียน รวมถึงแถบเมฆที่สวยงามของดาวพฤหัสบดี และหากใช้กำลังขยาย 100 เท่าขึ้นไป จะสามารถเห็นจุดแดงใหญ่ พายุหมุนยักษ์ที่มีขนาดใหญ่กว่าโลกถึง 1.3 เท่า ได้อย่างชัดเจน ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 13 เดือน
2. จันทรุปราคาเต็มดวง วันที่ 3 มีนาคม 2569
ตรงกับวันมาฆบูชา ช่วงเวลาประมาณ 15:44 น. ถึง 21:23 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ในไทยจะเริ่มสังเกตได้ตั้งแต่ดวงจันทร์โผล่พ้นขอบฟ้า เวลาประมาณ 18:23 น. เป็นต้นไป (เวลา ณ กรุงเทพฯ ซึ่งจังหวัดอื่นเวลาอาจต่างจากนี้ไปเล็กน้อย) ทางทิศตะวันออก ซึ่งตรงกับช่วงที่กำลังเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงพอดี ช่วงดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏเป็นสีแดงอิฐ จนถึงเวลาประมาณ 19:02 น. หลังจากนั้นจะเกิดเป็นจันทรุปราคาบางส่วน จนสิ้นสุดปรากฏการณ์เวลาประมาณ 21:23 น. มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าทั่วไทย
...
3. ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้-ไกลโลกที่สุดในรอบปี (Micro Full Moon) วันที่ 31 พฤษภาคม 2569
ตรงกับวันวิสาขบูชา นอกจากนี้ยังเป็นดวงจันทร์เต็มดวงครั้งที่สองของเดือน หรือ บลูมูน (Blue Moon) เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เรียกว่า “ไมโครบลูมูน (Micro Blue Moon)” ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กกว่าปกติเล็กน้อย สำหรับปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี (Super Full Moon) จะตรงกับวันที่ 24 ธันวาคม 2569 ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาสอีฟพอดี ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย
4. ดวงจันทร์บังดาวศุกร์ วันที่ 14 กันยายน 2569
เวลาประมาณ 19:28 - 20:34 น. (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) เริ่มสังเกตการณ์ได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ หลังดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้า ทางทิศตะวันตก ในช่วงเวลาประมาณ 19:28 น. ดวงจันทร์จะค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปบังดาวศุกร์ จนดาวศุกร์ลับหายไปหลังดวงจันทร์ฝั่งพื้นผิวส่วนมืด และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงอีกครั้งฝั่งเสี้ยวสว่าง เวลาประมาณ 20:34 น. อย่างไรก็ตามในคืนดังกล่าว ดวงจันทร์จะตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 20:24 น. ส่งผลให้ผู้สังเกตในประเทศไทยไม่สามารถสังเกตได้ครบทั้งปรากฏการณ์ แต่ยังคงสามารถติดตามชมช่วงสำคัญของการบังส่วนแรกได้ หากฟ้าใส ไร้เมฆฝน สังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่าทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย
5. ดาวศุกร์สว่างที่สุด
เกิดขึ้น 2 ครั้งในรอบปีนี้ ครั้งแรกวันที่ 22 กันยายน 2569 ช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันตก และวันที่ 27 พฤศจิกายน 2569 ช่วงรุ่งเช้าทางทิศตะวันออก หากมองผ่านกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์
6. ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี
วันที่ 4 ตุลาคม 2569 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) จึงมีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,261 ล้านกิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดทั้งคืน ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 378 วัน
7. ดวงจันทร์บังดาวพฤหัสบดี เช้ามืดวันที่ 3 พฤศจิกายน 2569
จะเกิดปรากฏการณ์ "ดวงจันทร์บังดาวพฤหัสบดี" เมื่อมองจากโลกจะเห็นดวงจันทร์จะค่อย ๆ เคลื่อนมาบังดาวพฤหัสบดี จนดาวพฤหัสบดีลับหายไปหลังดวงจันทร์ฝั่งเสี้ยวสว่าง และโผล่พ้นออกมาทั้งดวงอีกครั้งฝั่งพื้นที่ผิวส่วนมืด เวลาประมาณ 05:23 น. (เวลา ณ จังหวัดสงขลา) ในไทยสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า เฉพาะภาคใต้ และบางเกาะในจังหวัดตราด สำหรับพื้นที่อื่นจะเห็นเป็นปรากฏการณ์ดาวพฤหัสบดีเคียงดวงจันทร์ตลอดคืน
8. ฝนดาวตกน่าติดตาม
ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เกิดจากโลกโคจรเข้าตัดผ่านสายธารเศษหินและฝุ่นในอวกาศที่ดาวเคราะห์น้อยและดาวหางทิ้งไว้ สำหรับฝนดาวตกที่ไร้แสงจันทร์รบกวน และสามารถสังเกตการณ์ได้ในปี 2569 ได้แก่ 22 - 23 เม.ย. 69 ฝนดาวตกไลริดส์ (18 ดวงต่อชั่วโมง) / 12 - 13 ส.ค. 69 ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์ (100 ดวงต่อชั่วโมง) / 21 - 22 ต.ค. 69 ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ (20 ดวงต่อชั่วโมง) / 5 - 6 พ.ย. 69 ฝนดาวตกทอริดส์ใต้ (10 ดวงต่อชั่วโมง) / 12 - 13 พ.ย. 69 ฝนดาวตกทอริดส์เหนือ (5 ดวงต่อชั่วโมง) / 17 - 18 พ.ย. 69 ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (15 ดวงต่อชั่วโมง) / 14 - 15 ธ.ค. 69 ฝนดาวตกเจมินิดส์ (150 ดวงต่อชั่วโมง)
9. ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุมในปี 2569
มีปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุมให้ชมตลอดทั้งปี ได้แก่ 16 เม.ย. 69 ดวงจันทร์เคียงดาวพุธ ดาวอังคาร และดาวเสาร์ / 19 - 23 เม.ย. 69 / ดาวเคราะห์ชุมนุม (ดาวพุธ ดาวอังคาร และดาวเสาร์) / 14 พ.ค. 69 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 20 พ.ค. 69 ดวงจันทร์เคียงดาวพฤหัสบดี / 10 มิ.ย. 69 ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี / 16 - 18 มิ.ย. 69 ดวงจันทร์เคียงดาวพุธ ดาวพฤหัสบดี และดาวศุกร์ / 11 ก.ค. 69 ดวงจันทร์ผ่านหน้ากระจุกดาวลูกไก่ / 11 ต.ค. 69 ดาวอังคารผ่านหน้ากระจุกดาวรวงผึ้ง / 16 พ.ย. 69 ดาวอังคารเคียงดาวพฤหัสบดี / 25 พ.ย. 69 ดาวอังคารเคียงดาวเรกูลัส / 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. 69 ดวงจันทร์เคียงดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี และดาวเรกูลัส
10. ดวงอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทย
ประเทศไทยมีช่วงที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ 2 ครั้งในรอบปี ครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม เริ่มจากภาคใต้ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ ถึงกรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 27 เมษายน 2569 และจบที่ภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม ส่วนครั้งที่สองอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม - กันยายน โดยเริ่มจากภาคเหนือปลายเดือนกรกฎาคม ไล่ลงไปจนถึงกรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2569 และจบที่ภาคใต้ในช่วงเดือนกันยายน ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ (ตั้งฉากกับประเทศไทย) จะแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ สังเกตได้จากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดีเสมือนไร้เงา
ทั้งนี้ การชมฝนดาวตกขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในช่วงนั้น หากท้องฟ้ามีเมฆ หรือฝนตก จะสังเกตการณ์ได้ยาก แต่หากฟ้าใสไร้เมฆ ให้เลือกสถานที่ที่ท้องฟ้ามืดสนิท ห่างไกลจากแสงของตัวเมือง และแนะนำให้นอนชมด้วยตาเปล่า เพราะฝนดาวตกจะกระจายทั่วฟ้า สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชมได้ในวันและเวลาดังกล่าว หรือติดตามข้อมูลปรากฏการณ์ดาราศาสตร์เพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ที่ www.facebook.com/NARITpage.