"กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง" เผยข่าวดี "เต่าทะเล" กลืน "สายรัดข้อมือ" ที่นักท่องเที่ยวยื่นให้กิน ล่าสุดขับออกมาทางอุจจาระได้สำเร็จแล้ว
วันที่ 18 ธันวาคม 2568 ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับรายงานจากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน (ศวอบ.) เกี่ยวกับผลการช่วยเหลือเต่าทะเลที่นักท่องเที่ยวได้ยื่นสายรัดข้อมือ (wristband) ให้กินระหว่างดำน้ำตื้นบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน ในวันที่ 21 พ.ย. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ติดตามพบเต่าทะเลตัวดังกล่าวบริเวณเกาะห้า–เกาะหก ก่อนนำส่งยังท่าเรือทับละมุ เพื่อส่งต่อให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน
...
ทั้งนี้ ทีมสัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ศวอบ. ได้ตรวจสุขภาพร่างกายของเต่าและทำการตรวจวินิจฉัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ และสามารถระบุตำแหน่งของสายรัดข้อมือที่อยู่ในทางเดินอาหารได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2568 โดยการฉายรังสี (X-ray) ร่วมกับการกลืนสารทึบรังสี (Barium) พบสายรัดข้อมือดังกล่าวมีขนาดเส้นรอบวงประมาณ 20 ซม. ปะปนอยู่ในอุจจาระโดยไม่เกิดการอุดตันทางเดินอาหาร และมีการตรวจค่าเลือดพบอยู่ในเกณฑ์ปกติ
ขณะที่เต่าสามารถกินอาหารและขับถ่ายได้ปกติ ซึ่งมีการติดตามดูลักษณะของอุจจาระ พบเศษพืชและผลไม้ซึ่งไม่ใช่อาหารในธรรมชาติในอุจจาระ ได้แก่ ใบสับปะรด เม็ดมะละกอ และใบตองซึ่งไม่สามารถย่อยได้ตามปกติในทางเดินอาหารของเต่า
โดยสัตวแพทย์จึงได้ทำการประเมินสุขภาพอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 18 ธ.ค. 2568 พบว่าเต่าทะเลขับอุจจาระออกมาเป็นสายรัดข้อมือสีเหลืองพร้อมใบตอง ซึ่งเป็นพืชที่ไม่สามารถย่อยในทางเดินอาหารได้ รวมระยะเวลาตั้งแต่วันที่เต่าทะเลกลืนสายรัดข้อมือจนขับออกมาทางอุจจาระใช้เวลาทั้งหมด 27 วัน โดยสัตวแพทย์ได้พิจารณาติดตามและประเมินอาการอย่างต่อเนื่อง และติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อวางแผนปล่อยเต่าทะเลคืนสู่ธรรมชาติในลำดับต่อไป พร้อมข้อเสนอแนะแนวทางการจัดการกิจกรรมการท่องเที่ยวทางน้ำให้เหมาะสมโดยไม่ควรให้อาหารที่ไม่เป็นอาหารตามธรรมชาติและสิ่งแปลกปลอมให้กับเต่าทะเล.