อัปเดตโครงการ "คนละครึ่งพลัสเฟส 2" เช็กเงื่อนไขล่าสุด ใครบ้างมีสิทธิรับเงิน 4,000 บาท คาดอาจไม่แตกต่างจากการลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" เฟสแรก 


โครงการ "คนละครึ่งพลัส" รัฐบาลสนับสนุนเงินช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนที่เข้าเงื่อนไข โดยเป็นการออกให้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเริ่มใช้จ่ายวันแรกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหากใครที่ลงทะเบียนไม่ทันใน โครงการ "คนละครึ่งพลัสเฟสแรก" ยังมีลุ้นในโครงการ "คนละครึ่งพลัสเฟสสอง"

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวมั่นใจว่า โครงการคนละครึ่งพลัสเฟส 2 จะนำเสนอที่ประชุม ครม. ได้ต้นเดือน ธ.ค.นี้ ในกรณีที่แม้จะมีการยุบสภาก่อนกำหนด เช่น ในเดือน ธ.ค. ก็จะเสนอ ครม. ได้ก่อนการยุบสภาแน่นอน โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาวงเงินที่จะนำมาใช้

อัปเดตโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ข้อมูล ณ วันที่ 23 พ.ย. เวลา 23.50 น. พบว่ามีร้านค้าเข้าร่วมแล้ว 968,692 ร้านค้า และมีผู้ใช้สิทธิ์ 1,652,014 คน ก่อให้เกิดเงินสะพัดในระบบแล้วกว่า 54,132 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากใครที่ลงทะเบียนไม่ทันเฟสแรก สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมคนละครึ่งพลัสได้ในเฟส 2 ซึ่งจะได้รับเงิน 4,000 บาท โดยคาดว่าการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" เฟส 2 อาจจะไม่แตกต่างจากการลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" เฟสแรก 

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ

  • เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  • มีอายุตั้งแต่ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  • มีบัตรประจำตัวประชาชน
  • ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามฐานข้อมูลของกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2568

...

  • ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในโครงการของรัฐ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง (2) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 (3) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 (4) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 และ (5) โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5

เงื่อนไขการใช้สิทธิสำหรับประชาชน

สำหรับประชาชนที่ได้รับสิทธิคนละครึ่งพลัสเฟสแรก ต้องใช้จ่ายกับร้านค้าที่ร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. - 31 ธ.ค. 2568 เวลา 06:00 - 23:00 น. โดยชำระผ่าน G Wallet ส่วนประชาชนที่ต้องการับสิทธิคนละครึ่งพลัสเฟสสอง คาดว่าจะได้เริ่มใช้ในเดือน ม.ค. 2569 ซึ่งเงื่อนไขการใช้สิทธิอาจไม่แตกต่างจากเฟสแรก

ทั้งนี้ ห้ามผู้เข้าร่วมโครงการกระทำการใดๆ ที่สร้างความเข้าใจผิดหรือก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินการของมาตรการ/โครงการใดๆ ของรัฐ

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 5/2568 (ครม.เศรษฐกิจ) มีมติเห็นชอบมาตรการใหม่เพื่อสร้างความยั่งยืนให้ร้านค้าที่อยู่ในระบบ โดยให้ "เชื่อมร้านค้าคนละครึ่งพลัสทั้งหมดเข้ากับระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" เพื่อแก้ปัญหาผู้ถือบัตรสวัสดิการมีร้านค้าให้เลือกใช้น้อยเกินไป

สำหรับร้านค้าที่ผ่านระบบคนละครึ่งมีมาตรฐานสูงและกระจายอยู่ทั่วประเทศ การเชื่อมระบบครั้งนี้จะช่วยให้ร้านค้าขายสินค้าให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการได้ทันที เพิ่มรายได้ต่อเนื่อง และทำให้ระบบสวัสดิการเข้าถึงได้ง่ายขึ้นทั่วประเทศ ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพัฒนาระบบเชื่อมต่อเพิ่มเติมเพื่อให้ดำเนินงานได้สมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่งพลัส มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการอยู่ตอนนี้ประมาณ 980,000 ร้านค้า ครม.เศรษฐกิจ ได้พิจารณาเห็นว่าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นอีกโครงการหนึ่งนั้นข้อจำกัด คือคนที่มีใช้บัตรสวัสดิการมีข้อจำกัดด้านร้านค้าที่เข้าร่วมค่อนข้างน้อย ครม.เศรษฐกิจ จึงเห็นชอบให้เอาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัสไปเชื่อมโยงกับบัตรสวัสดิการ 

ความหมายคือ ร้านค้าเหล่านี้จะสามารถไม่เพียงแต่ขายแค่ในโครงการคนละครึ่งพลัสเท่านั้น แต่ต่อจากนี้ไปจะสามารถขายให้กับคนถือบัตรสวัสดิการได้ด้วย ซึ่งจะต้องมีการไปทำระบบเพื่อรองรับการเชื่อมโยงนี้ มาตรการนี้ถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลได้เข้ามาช่วยเหลือร้านค้าและจะทำให้เกิดความยั่งยืน และรายได้ของร้านค้าจะไปได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเราทราบดีว่าโครงการบัตรสวัสดิการมีต่อเนื่อง จึงถือเป็นหัวใจสำคัญ

อย่างไรก็ตาม หากมีความชัดเจนในเรื่องการลงทะเบียนจากรัฐบาล จะได้รายงานให้ทราบต่อไป.