"หมอยง" อธิบายชัด "ไวรัสตับอักเสบ E" ไม่ใช่โรคใหม่ แต่ในไทยไม่พบการระบาดหมู่มาก-อัตราการเสียชีวิตต่ำ ชี้โรคนี้ไม่มียารักษา แหล่งรังโรคอยู่ในหมู และผู้ป่วยหลายราย มีประวัติการทาน "หมูกระทะ"
วันที่ 19 พ.ย. 68 มีรายงานว่า ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเรื่อง "ตับอักเสบอี ที่ประชากรไทยควรรู้ เพื่อจะได้ไม่ตื่นตระหนกกับข่าวตับอักเสบ E " โดยระบุว่า
ไวรัสตับอักเสบ E ไม่ใช่โรคใหม่ ศูนย์ไวรัสจุฬา ผมได้ศึกษามานานแล้ว และมีข้อมูลมากมาย รวมทั้งวิธีการตรวจได้อย่างรวดเร็ว ตรวจเช้าได้เย็น ด้วยการตรวจ RNA ไวรัส มีความถูกต้องแม่นยำสูง
ไวรัสตับอักเสบ E ก่อให้เกิดโรคแบบเฉียบพลัน ได้เช่นเดียวกับไวรัสตับอักเสบตัวอื่นๆ เช่น A, B และ C อาการแบบเฉียบพลันไม่แตกต่างกันมาก มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย ท้องเสีย และมีตัวเหลืองตาเหลือง เอนไซม์ตับสูง
ไวรัสตับอักเสบ E ในประเทศไทย ที่พบจะพบเป็นรายๆ ไม่พบการระบาดหมู่มาก เหมือนในประเทศที่สุขอนามัยไม่ดี เช่น แอฟริกา อินเดีย สายพันธุ์ที่พบในบ้านเราเป็นสายพันธุ์ที่ 3 มีแหล่งรังโรคอยู่ในหมู
การติดต่อที่สำคัญจึงเป็นการติดต่อทางการรับประทานเชื้อที่ปนเปื้อนกับอาหาร โดยเฉพาะอาหารที่เป็นผลิตภัณฑ์ของหมูไม่สุก เช่น การรับประทานหมูกระทะ และใช้ตะเกียบคีบหมู เพื่อปิ้ง ย่าง และใช้ตะเกียบอันเดียวกัน คีบอาหารเข้าปาก ซึ่งอาจจะปนเปื้อนเชื้อไวรัสตับอักเสบ E เข้าไปในหมูกระทะ เนื้อหมูไม่ได้มาจากหมูตัวเดียว จะมาจากหมูเป็นจำนวนมากหลายตัวผสมกัน หรือปนเปื้อนกัน จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงสูงมากกว่าการกินจากหมูตัวเดียว และกินอาหารที่สุกสะอาด
...
ส่วนตัวเคยรักษาผู้ป่วยหลายราย ที่มีประวัติชัดเจนไปรับประทานหมูกระทะ หรือเกี่ยวข้องสัมผัสกับหมู
อีกวิธีหนึ่งที่อาจจะติดต่อกันได้ คือรับเลือดหรือผลิตภัณฑ์ของเลือดจากผู้บริจาคที่มีเชื้อแบบไม่มีอาการ เพราะการติดเชื้อในผู้ที่แข็งแรงดีจำนวนหนึ่งจะไม่มีอาการ และร่างกายก็จะกำจัดเชื้อให้หมดไปเอง การรับเลือดจำนวนมากให้กับผู้มีภูมิต้านทานต่ำ ควรขอเลือดจากศูนย์ที่ผ่านการตรวจไวรัสตับอักเสบ E
โรคนี้ไม่มียารักษา ถ้าวินิจฉัยได้เร็วก็ไม่จำเป็นต้องให้ยามากมาย โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะหลายอย่าง เพียงรักษาตามอาการ หรือในรายที่รุนแรง การให้ยาต้านไวรัสอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ เพราะยาก็มีอาการข้างเคียง เราจะให้ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำเท่านั้น
โรคนี้ในประเทศไทยเสียชีวิตต่ำมาก ๆ ส่วนใหญ่ที่รุนแรงและเสียชีวิตจะเป็นผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ กินยากดภูมิต้านทาน หรือโรคเรื้อรังที่ทำให้มีภูมิต้านทานลดลง
ข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan