ทนายคนดัง เผยข้อบังคับ "มูลนิธิ กันจอมพลังช่วยสู้" ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้ม ทรัพย์สินตกเป็นของ "มูลนิธิ ธรรมนัส พรหมเผ่า"

วันที่ 22 ตุลาคม 2568 นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความสิทธิมนุษยชน ได้เผยแพร่เอกสาร ข้อบังคับมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ พร้อมระบุว่า "ตามข้อบังคับของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ข้อ 39 กำหนดว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป..ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า"

ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่นเดียวกับ นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ก็ได้แชร์โพสต์นี้เช่นกัน พร้อมโพสต์ข้อความด้วยว่า "กันจอมพลัง" ยอมรับไม่มีชื่อตนเองใน "มูลนิธิกันจอมพลัง" เอารุ่นน้องเป็นประธาน-รองประธาน-เหรัญญิก ผู้บริหารคือกาญจนา-อภิสิทธิ์-วิสุนัย ส่วนกันตามกฎหมายเป็นที่ปรึกษา


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เกี่ยวกับ ประกาศนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานครเรื่อง จดทะเบียนจัดตั้ง "มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้" พบข้อมูลว่า นางสาวกาญจนา สถาวร ได้ยื่นคําขอจดทะเบียนจัดตั้งมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ต่อนายทะเบียนมูลนิธิกรุงเทพมหานคร โดยวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และสนับสนุนด้านป้องกันสาธารณภัยทั่วประเทศ และไม่ดำเนินการเกี่ยวข้องกับการเมืองแต่ประการใด 

...

โดยมีคณะกรรมการมูลนิธิ คือ นางสาวกาญจนา สถาวร เป็นประธานกรรมการ, นายอภิสิทธิ์ ดีทรัพย์มงคล เป็นรองประธานกรรมการและเหรัญญิก และนายวิสุนัย จำปาศิริ เป็นกรรมการและเลขานุการ ซึ่งจดทะเบียนเป็นมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568

นอกจากนี้ หากดูในข้อบังคับของมูลนิธิฯ ที่ปรากฏแนบท้ายนั้น พบว่า ในข้อ 39 หมวดที่ 11 การเลิกมูลนิธิ ระบุว่า ถ้ามูลนิธิต้องเลิกล้มไป โดยมติของคณะกรรมการ หรือโดยเหตุผลใดก็ตาม ทรัพย์สินทั้งหมดของมูลนิธิที่เหลืออยู่ ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์แก่มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า

อ้างอิงบางส่วน: ราชกิจจานุเบกษา