เปิดเสียงสะท้อนร้านค้า วันแรกลงทะเบียน "ถุงเงิน" ร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ร้านค้าเดิมหลายเสียงบอกฉลุย ไม่ถึง 2 นาทีลงทะเบียนสำเร็จ ขณะที่บางร้านลงทะเบียนไม่ได้ ต้องไปธนาคาร วอนรัฐแก้ปัญหาที่ระบบ 

วันที่ 15 ต.ค. 68 เริ่มวันแรก สำหรับการเปิดลงทะเบียน "คนละครึ่งพลัส" ของร้านค้า ผ่านแอปฯ ถุงเงิน สำหรับร้านค้าใหม่ และร้านค้าเดิม


ลงทะเบียนร้านค้า ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก

ที่เชียงใหม่ บรรยากาศที่ตลาดประตูเชียงใหม่ อ.เมือง ผู้ประกอบการร้านค้าให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการ พากันเข้าแอปฯ ถุงเงิน เพื่อลงทะเบียนกันตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่บอกว่าขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาเข้าไปอัปเดตและยืนยันตัวตนข้อมูลไม่ถึงสองนาทีก็เสร็จ     

นางสาวสิริญา จำนงค์ภักดี แม่ค้าขายอาหารในตลาด บอกว่า เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งมาตั้งแต่แรก เมื่อมีคนละครึ่งพลัสมา ก็ไม่ลังเลที่จะเข้าร่วมอีก มองว่าคนละครึ่งพลัสจะช่วยให้ประชาชนได้ประหยัดค่าใช้จ่าย แม้จะไม่ยั่งยืนแต่ก็ช่วยบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพให้กับประชาชนและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ส่วนการลงทะเบียนวันนี้ก็ไม่ยุ่งยากและใช้เวลาไม่นานในการยืนยันตัวตน แอปฯ ไม่ค้างหรือสะดุด

...

ทั้งนี้ จากการเดินสำรวจตลาด ยังมีอีกหลายร้านที่ตัดสินใจไม่ร่วมโครงการ โดยเหตุผลส่วนใหญ่ยังเป็นเรื่องของข้อมูลรายได้จากการค้าขาย แม้รัฐมนตรีคลังจะออกมายืนยันจะไม่เก็บข้อมูลรายได้ในโครงการนี้ แต่หลายคนยังกังวลและไม่ไว้ใจ กลัวจะมีการเปลี่ยนนโยบายภายหลัง จึงตัดปัญหาด้วยการไม่เข้าร่วมโครงการฯ


ธนาคารกรุงไทย คนแน่น พ่อค้าแม่ค้าต่อคิวลงทะเบียน

ส่วนที่ธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองชัยนาท มีบรรดาแม่ค้าพ่อค้า ร้านค้าต่างๆ มารอต่อคิวลงทะเบียนร้านค้า ตั้งแต่ธนาคารยังไม่เปิด

นายสถาพร วัฒนไพโรจน์รัตน์ ผจก.ธนาคารกรุงไทย สาขาเมืองชัยนาท เตรียมการรับมือ โดยการแจกบัตรคิว ให้เจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลคำปรึกษาอยู่ตลอดเพื่อความรวดเร็ว ส่วนปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่แม่ค้าพ่อค้าจะลืมรหัสผ่านบ้าง โทรศัพท์ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตบ้าง โทรศัพท์ตกรุ่นบ้าง ลืมถ่ายรูปร้านค้า ทางเจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำไปแก้ไข

บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า โครงการนี้จะเป็นโครงการที่พลิกฟื้นเศรษฐกิจได้ไม่มากก็น้อย ลงทะเบียนไว้ก็ไม่เสียหาย เพราะยังดีกว่าที่ผ่านๆมา เศรษฐกิจแย่มาก เพราะโครงการคนละครึ่ง รัฐช่วยจ่ายครึ่งประชาชนจ่ายครึ่ง เงินจะหมุนเวียน แต่ครั้งนี้ให้น้อย ก็ยังไม่แน่ใจว่าเงินจะหมุนเวียนมากน้อยแค่ไหน 


ร้านค้าเดิมโวยเข้าไม่ได้ ฝากแก้ปัญหาที่ระบบ ดีกว่าให้ไปแออัดที่ธนาคาร

ที่ขอนแก่น ร้านค้าส่วนใหญ่ต่างให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ทั้งรายเก่าและรายใหม่อย่างมาก ที่ร้านติมตูนไอติมโบราณ ซึ่งตั้งอยู่ภายในชุมชนสามเหลี่ยมเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าพ่อค้าแม่ค้า ในบริเวณใกล้เคียง ต่างพากันมาสอบถามและทำการร่วมกันติดตั้งแอปฯ ถุงเงิน รวมทั้งการอัปเดตข้อมูล หรือการยืนยันตัวตนตามระเบียบและขั้นตอนที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งพบว่าบางร้านยืนยันตัวตนและเข้าระบบได้ ขณะที่บางร้านไม่สามารถทำได้ ทั้งที่เข้าร่วมโครงการของรัฐในมาตรการต่างๆ มาโดยตลอด

น.ส.ฐิติญาณ จันทนภูผา เจ้าของร้านติมตูน ไอติมโบราณ ขอนแก่น กล่าวว่า ร้านตัดสินใจเข้าร่วมโครงการอีกครั้งเพื่อที่จะเสริมสภาพคล่องและมีรายได้จากโครงการดังกล่าว เพราะที่ผ่านมาก็เข้าร่วมโครงการและมียอดของการใช้จ่ายที่มากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นเมื่อรัฐบาลกำหนดนโยบายออกมาจึงตัดสินใจสมัครเข้าร่วมทันที และไม่กังวลเรื่องภาษีเพราะโดยส่วนตัวนั้นชำระอยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางร้านที่ลงทะเบียนไม่ได้ ทั้งที่ร่วมโครงการกับรัฐบาลในเรื่องต่างๆ มาตลอด ซึ่งรัฐบาลก็ทราบว่าเริ่มดำเนินการในกลุ่มร้านค้าวันนี้ ทำไมไม่เตรียมตัวให้พร้อม โครงการคนละครึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นเรื่องเดิม ระบบเดิม ธนาคารเดิม แต่ก็มีปัญหาคือร้านเดิมลงทะเบียนไม่ได้ และต้องไปติดต่อธนาคารเอง ลำพังร้านค้ารายใหม่ที่จะไปติดต่อกับธนาคารก็เยอะอยู่แล้ว และยังคงมีร้านเดิมที่มีปัญหาไปติดต่อกับธนาคารอีก จะยิ่งแออัด อีกทั้งกำหนดลงทะเบียนร้านค้า 15-19 ต.ค. ระยะเวลาก็น้อย ดังนั้นอยากให้ไปแก้ที่ระบบมากกว่าว่าติดขัดตรงไหน เพื่อให้ร้านค้าสามารถอัปเดตผ่านแอปฯ ถุงเงินได้ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง