อัปเดตความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่ง 2568 ” นโยบายเรือธงรัฐบาลภูมิใจไทย ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ย้อนดูเงื่อนไข ขอบเขตการใช้จ่าย การซื้อสินค้าและบริการ

จากกรณีแผนเร่งด่วนทันที ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนหลักรัฐบาล ประกาศฟื้นโครงการ “คนละครึ่ง” ที่เคยใช้ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ เพื่อเป็นนโยบายควิกวิน กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยอมรับว่า นายอนุทิน และที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร พรรคภูมิใจไทย ทีมงานด้านนโยบายได้พูดถึงมาตรการนี้ เป็นส่วนหนึ่งเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่หากนำมาใช้อาจไม่ใช่รูปแบบเดิม อาจเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมและตอบโจทย์มากขึ้น

โดยวานนี้ (15 ก.ย.68) ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายอนุทิน ยังให้ความมั่นใจกับนโยบายคนละครึ่ง หลังถามว่า จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง นายกฯกล่าวว่า หลังไมค์มีการเตรียมความพร้อม เมื่อเราเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินตามเวลาที่กำหนดจะดำเนินการ เมื่อถามว่าประชาชนคาดหวังนโยบายคนละครึ่งเปิดกระเป๋ารอได้เลยใช่หรือไม่ นายกฯตอบว่า “รอได้ครับ เดี๋ยวรายละเอียดจะให้ รมว.คลังชี้แจงแผนที่เราได้วางเอาไว้และดำเนินการ เมื่อเราเข้ามาบริหารเต็มตัว เพื่อให้ดำเนินการได้เร็วที่สุด


ล่าสุดวันนี้ (16 ก.ย.68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยอีกว่า พรรคภูมิใจไทยมีนโยบายเรือธง คือ โครงการคนละครึ่ง โดยว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อเตรียมรายละเอียด

...




สำหรับเงื่อนไขคนละครึ่ง 2568 เบื้องต้นแบ่งตามกลุ่มประชาชน ดังนี้


  • กลุ่มผู้เสียภาษีเงินได้ : รัฐช่วยจ่าย 60% ประชาชนจ่ายเอง 40%

  • ประชาชนทั่วไป (นอกระบบภาษี) : รัฐช่วยจ่าย 50% ประชาชนจ่ายเอง 50%


    อย่างไรก็ตาม โครงการคนละครึ่งที่ผ่านมา รัฐบาลได้กำหนดคุณสมบัติผู้เข้าร่วมไว้ 4 ข้อ ได้แก่ มีสัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน และไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" โดยรัฐให้เงินอุดหนุนสูงสุดวันละ 150 บาท ต่อคน




    ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งล่าสุด



  • ยังไม่กำหนดชัดเจนลงทะเบียน www.คนละครึ่ง.com ได้หรือไม่ เนื่องจากเว็บไซต์ไม่สามารถใช้งานได้


  • ทั้งนี้ จากข้อมูล โครงการคนละครึ่งเฟส 5 (ก.ย.–ต.ค. 2565) 


    สำหรับขอบเขตการใช้จ่าย คือ สิทธิในโครงการครอบคลุมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งบริการบางประเภท เช่น ร้านทำผม ร้านนวด แต่ไม่ครอบคลุมสินค้าต้องห้าม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และสลากกินแบ่งรัฐบาล


    (อ่านข่าว : โครงการ “คนละครึ่ง” ซื้อสินค้า-บริการอะไรได้บ้าง)


    อย่างไรก็ตาม “โครงการคนละครึ่งรอบใหม่” อยู่ภายใต้แนวคิดปรับปรุงรูปแบบให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าอย่างไร “ไทยรัฐออนไลน์” จะรีบรายงานให้ทราบต่อไป.