คนละครึ่ง 2568 : เช็กคุณสมบัติที่กำหนดของผู้ร่วมโครงการ "คนละครึ่ง" ขั้นตอนและวิธีการใช้สิทธิ ซื้อสินค้า-บริการอะไรได้บ้าง
ภายหลังจาก นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่รัฐบาลอนุทิน ต้องการฟื้นคืน โครงการคนละครึ่ง โดยอาจมีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมให้ครอบคลุมและตอบโจทย์มากขึ้น นั้น ก็กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และจับตามองเป็นอย่างมาก สำหรับนโยบายการพัฒนาโครงการ "คนละครึ่ง 2568 "
เพราะที่ผ่านมามาตรการ "คนละครึ่ง" ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ได้รับเสียงตอบรับอย่างมากจากประชาชน ซึ่งริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2563 ในช่วงที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19) โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ ด้วยการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ร้านค้ารายย่อยทั่วประเทศ เป็นการสนับสนุนเศรษฐกิจฐานราก และฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศทั้งระบบ
คุณสมบัติของผู้ร่วมโครงการ "คนละครึ่ง"
สำหรับคุณสมบัติของผู้จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ คือ
1. มีบัตรประจำตัวประชาชน และเป็นบุคคลสัญชาติไทย
2. มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
3. ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
เงื่อนไขการใช้สิทธิ "โครงการคนละครึ่ง"
...
- รัฐร่วมจ่าย 50% : รัฐบาลจะช่วยออกค่าใช้จ่ายให้ 50% และประชาชนต้องจ่ายเองอีก 50%
- การใช้จ่ายครั้งแรก : ผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด
- ใช้จ่ายได้กับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น โดยต้องชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" และร้านค้าใช้แอปพลิเคชัน "ถุงเงิน"
- ไม่หักสิทธิ หากใช้ไม่หมดในแต่ละวัน โดยระบบจะคืนสิทธิที่ไม่ได้ใช้เข้ายอดรวมของผู้ได้รับสิทธิ และจะคำนวณสิทธิใหม่ในเวลา 06.00 น. ของทุกวัน
- สามารถใช้สิทธิ "คนละครึ่ง" ได้เวลา 06.00-23.00 น. ไม่สามารถใช้สิทธินอกเวลาดังกล่าวได้
- กำหนดวงเงินใช้จ่ายสูงสุดต่อวัน โดยในเฟสล่าสุด (เฟส 5) ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน
"สิทธิคนละครึ่ง" ใช้กับอะไรได้บ้าง
ประเภทสินค้า
- ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป
- ยกเว้น สลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ บัตรกำนัล (gift voucher/gift card) บัตรเงินสด (cash card) และสินค้ารูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า (prepaid)
ประเภทบริการ
- บริการนวด สปา ทำผม และทำเล็บ
- บริการประเภทรถโดยสารสาธารณะที่มีสัญชาติไทยและไม่ใช่นิติบุคคล ได้แก่ รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกิน 7 คน (TAXI-METER) รถตู้โดยสารประจำทางที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย รถยนต์สามล้อสาธารณะ รถสองแถวรับจ้างและรถจักรยานยนต์สาธารณะ ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องมีใบขับขี่รถสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย (ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ)
- บริการด้านขนส่งสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
- บริการด้านขนส่งมวลชนสาธารณะ ได้แก่ รถไฟฟ้าในเขตเมือง รถไฟ รถโดยสารประจำทางสาธารณะ และเรือโดยสารสาธารณะ (ผู้ประกอบการขนส่งมวลชนสาธารณะ)
- ทั้งนี้ ไม่รวมถึง บัตรกำนัล (gift voucher/gift card) บัตรเงินสด (cash card) และบริการรูปแบบอื่น ๆ ที่เป็นการชำระค่าสินค้าหรือบริการล่วงหน้า (prepaid)
วิธีสมัครใช้งานแอปฯ "เป๋าตัง"
1. เปิดแอปฯ App Store หรือ Google Play หรือ Play Store รองรับโทรศัพท์ที่ใช้ Android 9.0 ขึ้นไป หรือ iPhone ที่มี iOS 15.0 ขึ้นไป
- สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ ระบบปฏิบัติการ iOS - คลิกที่นี่
- สำหรับผู้ใช้โทรศัพท์ ระบบปฏิบัติการ Android - คลิกที่นี่
2. พิมพ์ค้นหา "เป๋าตัง" ในช่องค้นหา
3. เลือก "GET" หรือ เลือก "ติดตั้ง"
4. เมื่อติดตั้งเสร็จ เปิดแอปฯ เป๋าตัง
5. ให้ความยินยอมจัดการข้อมูลยืนยันตัวตน
6. เตรียมบัตรประชาชน
7. ถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตน
8. ตรวจสอบเลขบัตรประชาชน และกรอกเบอร์โทรศัพท์เพื่อรับรหัส OTP
9. ใส่รหัส OTP 6 หลักที่ได้รับจากโทรศัพท์มือถือ
10. กรอกข้อมูล บัตรประชาชน
11. เลือกวิธียืนยันตัวตน
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม เกี่ยวกับโครงการคนละครึ่งล่าสุด 2568 หรือ คนละครึ่งเวอร์ชันใหม่ จะรายงานให้ทราบต่อไป.