"หมอยง" อธิบายชัดๆ ทำไมผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 หรือมีอายุมากกว่า 33 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองโรค "ไวรัสตับอักเสบบี"
วันที่ 14 สิงหาคม 2568 ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเรื่อง "ไวรัสตับอักเสบบี ในผู้ที่เกิดก่อนปี พ.ศ. 2535 กับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีในการป้องกัน" โดยระบุว่า
"ในสมัยก่อนไวรัสตับอักเสบบีเป็นปัญหาสำคัญของประชากรไทย มีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีสูงมาก ประเทศไทยรณรงค์การให้วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิด โดยเริ่ม 2 จังหวัดคือชลบุรีและเชียงใหม่ในปี พ.ศ. 2531 ต่อมาอีก 2 ปี 2533 ได้เพิ่มอีก 10 จังหวัดเป็น 12 จังหวัด และในเดือนเมษายน พ.ศ. 2535 ได้มีการให้วัคซีนกับทารกแรกเกิดทุกคน อย่างน้อย 3 ครั้งในปีแรก
...
ทำให้ไวรัสตับอักเสบบีในผู้ที่เกิดหลังปี พ.ศ. 2535 น้อยลงอย่างมาก เพราะได้รับวัคซีนป้องกันไม่ให้ติดจากมารดาที่เป็นพาหะ ทำให้ในปัจจุบันผู้ที่อายุน้อยกว่า 33 ปี มีการติดเชื้อน้อยมากๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีอายุมากกว่า 33 ปีขึ้นไป หรือเกิดก่อนปี 2535 และไม่เคยฉีดวัคซีน อาจจะเคยติดเชื้อมาแล้ว มีภูมิต้านทานแล้ว โดยเฉพาะผู้มีอายุยิ่งมากก็จะเคยติดเชื้อมาแล้วเป็นจำนวนมากจากธรรมชาติ ดังนั้นในการที่จะฉีดวัคซีนในการป้องกัน เป็นสิ่งที่ดีและให้ดียิ่งขึ้น ควรจะได้มีการตรวจเลือดทุกคน เพื่อจะได้รู้ว่าสถานะของไวรัสตับอักเสบบีของเราเป็นอย่างไร เช่น มีภูมิต้านทานแล้วตามธรรมชาติ เป็นพาหะไวรัสตับอักเสบบีหรือติดเชื้อเรื้อรัง หรือยังไม่เคยติดและไม่มีภูมิต้านทาน เพื่อแยกกลุ่ม ให้เราจะให้วัคซีนเฉพาะในกลุ่มที่ไม่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีมาก่อนและไม่เคยฉีดวัคซีนเท่านั้น
ส่วนผู้ที่ติดเชื้อแล้วมีภูมิก็ไม่ต้องทำอะไร แต่ถ้าติดเชื้อแล้วเป็นพาหะ ควรเข้าสู่กระบวนการรักษา และติดตาม เพื่อป้องกันการเกิดโรคร้ายได้แก่ตับแข็งและมะเร็งตับ ดังนั้นผู้ที่เกิดก่อนปี 2535 ควรจะได้มีการตรวจกรองเลือดก่อนที่จะพิจารณาให้วัคซีน".
ขอบคุณเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan