ใบสั่งจราจรมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป

ปรับเปลี่ยนใบสั่งจราจรเพื่อ สอดคล้องกับกฎหมายความผิดทางพินัย ที่หากไม่ชำระค่าปรับตามกำหนด เจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้อัยการและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่จะไม่ถูกจำคุก หรือกักขังแทนค่าปรับเหมือนความผิดทางอาญาในอดีต


ใบสั่งจราจรแบบใหม่มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ดังนี้

  • 1.ใบสั่งสำหรับผู้ขับขี่ที่อยู่กับรถ (ใบสั่งติดหน้ารถ) ใบสั่งประเภทนี้ออกโดยเจ้าหน้าที่จราจรเมื่อพบผู้กระทำความผิดและตัวผู้ขับขี่อยู่กับรถ โดยใบสั่งจะมี 4 ส่วน คือ

    • แผ่นสีขาว: สำหรับให้ผู้ขับขี่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

    • แผ่นสีเหลือง: สำหรับนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของตำรวจ

    • แผ่นสีชมพู: สำหรับมอบให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจปรับเป็นพินัย

    • แผ่นสีฟ้า: สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบสั่งเก็บไว้เป็นสำเนาคู่ฉบับ

    • ใบสั่งแบบนี้จะมีแถบบาร์โค้ดและ QR Code เพื่อความสะดวกในการชำระค่าปรับ



...

  • ใบสั่งส่งทางไปรษณีย์: ใบสั่งแบบนี้ใช้เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่สามารถให้ใบสั่งกับผู้ขับขี่ได้ทันที เช่น การตรวจจับด้วยกล้องวงจรปิด โดยใบสั่งจะถูกส่งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนรถ ซึ่งในใบสั่งจะมีการระบุรายละเอียดความผิดและค่าปรับชัดเจน

  • ใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์ (e-Ticket): เป็นใบสั่งรูปแบบใหม่ที่ทันสมัยที่สุด เจ้าหน้าที่จะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ออกใบสั่ง ข้อมูลจะถูกบันทึกเข้าระบบทันทีและสามารถส่งให้ผู้กระทำความผิดทางช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ช่วยลดการใช้กระดาษและเพิ่มความรวดเร็ว


  • สำหรับรูปภาพของใบสั่งจราจรแบบใหม่นั้น เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เพิ่งประกาศใช้ จึงยังไม่มีภาพตัวอย่างอย่างเป็นทางการจากแหล่งที่เชื่อถือได้ แต่โดยรวมแล้วจะมีข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน เช่น เลขที่ใบสั่ง ชื่อ-ที่อยู่ผู้ทำผิด วันเวลาที่ทำผิด ข้อหา และค่าปรับที่ต้องชำระ พร้อมทั้งมีช่องทางการชำระที่หลากหลายมากขึ้น



    วิธีจ่ายค่าใบสั่งแบบใหม่


    การชำระค่าปรับจากใบสั่งจราจรแบบใหม่สามารถทำได้หลายช่องทาง เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน

    • จ่ายผ่านระบบออนไลน์:

      • เว็บไซต์ e-Payment ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ: เข้าไปที่เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/ePayment

      • แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT หรือ แอปฯ เป๋าตัง: สามารถเลือกเมนู "จ่ายบิล" แล้วค้นหา "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" หรือ "ค่าปรับจราจร"

      • สแกน QR Code: ในใบสั่งจะมี QR Code ให้สแกนเพื่อชำระค่าปรับผ่าน Mobile Banking ของธนาคารต่างๆ ได้ทันที

  • จ่ายผ่านช่องทางอื่นๆ:

    • ธนาคารกรุงไทย: สามารถนำใบสั่งที่มีแถบบาร์โค้ดไปชำระที่สาขาหรือตู้ ATM ของธนาคารได้

  • เคาน์เตอร์เซอร์วิส: ชำระได้ที่ร้านสะดวกซื้อที่มีบริการ

  • ตู้บุญเติม, CenPay: ตู้บริการต่างๆ ที่รองรับการชำระค่าปรับ

  • ที่ทำการไปรษณีย์: ชำระได้ที่ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ


  • ค่าปรับเป็นพินัย คืออะไร


    ค่าปรับเป็นพินัย คือมาตรการใหม่ที่ถูกนำมาใช้แทนการปรับทางอาญาสำหรับความผิดบางประเภทที่มีโทษไม่ร้ายแรง เช่น ความผิดทางจราจร ซึ่งหมายความว่าความผิดเหล่านี้จะไม่ถูกจัดเป็นคดีอาญาอีกต่อไป

    หัวใจสำคัญของค่าปรับเป็นพินัย คือ:

    • ไม่เป็นคดีอาญา: การกระทำความผิดจะไม่ถูกบันทึกในประวัติอาชญากรรม

    • เน้นการชำระค่าปรับ: หากชำระค่าปรับตามกำหนด เรื่องก็จะยุติลง ไม่ต้องเสียเวลาไปขึ้นศาล

    • มีความยืดหยุ่น: กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่สามารถพิจารณาค่าปรับตามความเหมาะสมและฐานะของผู้กระทำผิดได้

    หากไม่ชำระค่าปรับตามกำหนด เจ้าหน้าที่จะส่งเรื่องให้อัยการและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป แต่จะไม่ถูกจำคุกหรือกักขังแทนค่าปรับเหมือนความผิดทางอาญาในอดีต