วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ โต้ปมบีบบังคับ "นักศึกษาทุน" ประเทศกัมพูชา ลาออก ย้ำเป็นการตัดสินใจของนักศึกษากับผู้ปกครอง ยืนยันตลอดเวลาที่ผ่านมาดูแลเต็มที่


วันที่ 30 ก.ค. 2568 เฟซบุ๊ก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ โพสต์ข้อความชี้แจงข้อเท็จจริง โดยระบุว่า "ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ของกัมพูชาว่า 'มีนักศึกษารายหนึ่งจาก Boromajchoni Nursing school เผยว่า โรงเรียนยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ทั้งหมดของฉัน ทำให้ฉันไม่สามารถติดต่อใครได้ โรงเรียนบอกให้เลือกตัวเลือกอื่น คือ กลับกัมพูชาและสละทุนการศึกษา และนักศึกษาคนอื่นแชร์ว่าพวกเขาไม่รู้สึกมีสมาธิในการเรียน และถึงขั้นขาดอาหาร เพราะถูกยึดข้าวของและไม่มีวิธีติดต่อกับใครเลย'

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก ขอนำเรียนว่า วิทยาลัยมีนักศึกษาเข้าศึกษาในวิทยาลัย จำนวน 2 คน ตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ทั้งนี้ วิทยาลัยได้ดูแลสิทธิและสวัสดิการรวมทั้งความปลอดภัยของนักศึกษากัมพูชาเป็นอย่างดี อนึ่งภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในการดำเนินการเกี่ยวกับเครื่องมือสื่อสารของนักศึกษานั้น วิทยาลัยดำเนินการตามมาตรการความมั่นคงในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์จากการประชุมความมั่นคงในจังหวัดสุรินทร์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 มีข้อสั่งการในที่ประชุมว่า ให้สถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษากัมพูชาจำกัดขอบเขตการสื่อสารของนักศึกษากัมพูชาในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์

...

โดยให้มีการสื่อสารเป็นช่วงเวลาตามความจำเป็น และอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ วิทยาลัยได้ดำเนินการตามข้อสั่งการอย่างเคร่งครัด รวมทั้งได้พูดคุยสื่อสารและทำความเข้าใจกับนักศึกษาในเหตุผลและความจำเป็นภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้นักศึกษาสามารถสื่อสารกับครอบครัวได้ตามความต้องการ และวิทยาลัยได้รายงานให้ผู้ประสานงานโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาฯ ทราบ เพื่อสื่อสารและทำความเข้าใจกับครอบครัวนักศึกษาให้เข้าใจอีกทางหนึ่ง

สำหรับประเด็น 'โรงเรียนบอกให้เลือกตัวเลือกอื่น คือ กลับกัมพูชาและสละทุนการศึกษา' วิทยาลัยขอนำเรียนว่า การตัดสินใจลาออกจากการเป็นนักศึกษาและเดินทางกลับประเทศกัมพูชาของนักศึกษานั้น อยู่ภายใต้การให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และเป็นการตัดสินใจของนักศึกษาร่วมกับผู้ปกครอง วิทยาลัยไม่ได้มีการบีบบังคับนักศึกษาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ วิทยาลัยได้สื่อสารกับผู้ปกครองและนักศึกษาทางโทรศัพท์เกี่ยวกับระเบียบของสถาบันพระบรมราชชนก ผู้ปกครองรับทราบและยินยอมให้นักศึกษาลาออกและเดินทางกลับภูมิลำเนา

ขณะที่ วิทยาลัยได้ดำเนินการประสานงานกับมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษากัมพูชาศึกษาอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อวางแผนการเดินทางกลับประเทศของนักศึกษา วิทยาลัยจัดรถส่งนักศึกษาจากวิทยาลัยไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นปี ได้จัดกิจกรรมส่งเพื่อนเพื่อร่วมเดินทางกับคณะนักศึกษาดังกล่าวอย่างอบอุ่น และขณะนี้นักศึกษาเดินทางกลับถึงภูมิลำเนาในประเทศกัมพูชาอย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม วิทยาลัยขอนำเรียนว่า ตลอดระยะเวลา 52 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน - 28 กรกฎาคม 2568 วิทยาลัยได้ดูแลนักศึกษากัมพูชาอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักความเอื้ออาทร หลักสิทธิมนุษยชนและคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาฯ อย่างแท้จริง".


ขอบคุณเฟซบุ๊ก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์