แฉกลโกงมิจฉาชีพ เตือนภัยคนกำลังหางาน โฆษณางานออนไลน์ "นักวางแผนทางการเงิน" ทำงานที่บ้านได้ ค่าตอบแทนสูง หลอกให้โอนเงินเพื่อรับค่าตอบแทน สุดท้ายเสียหายหลักแสน

ทุกวันนี้ แม้ว่าจะมีข่าวเตือนภัยให้ระวังกลโกงมิจฉาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการไม่กดลิงก์ต้องสงสัย ไม่ให้ข้อมูลส่วนตัว อย่าหลงเชื่อหากมีคนให้ทำธุรกรรมทางราชการออนไลน์ แต่มิจฉาชีพก็ยังมีกลโกงใหม่ๆ อยู่เสมอ มีคนตกเป็นเหยื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา พ่อค้าแม่ค้า ประชาชนทั่วไป รวมไปถึงบุคคลมีชื่อเสียง

ล่าสุด (16 ก.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณใบเฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จากโฆษณาสมัครงานในออนไลน์ เกี่ยวกับการเป็นนักวางแผนทางการเงิน

โดย คุณใบเฟิร์น เล่าว่า ตนเองอยู่ระหว่างหางานพาร์ทไทม์ จนเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 68 ระหว่างเล่นอินสตาแกรมได้ไปเจอโฆษณารับสมัครงาน เกี่ยวกับการเป็นนักวางแผนการเงิน สามารถทำงานที่บ้านได้ มีคนสอนงานให้ ตนคิดว่าน่าสนใจจึงทักไป จากนั้นระบบได้เด้งไปที่แชทของเฟซบุ๊ก ซึ่งทางเขาได้ส่งรายละเอียดของบริษัทมาให้ พร้อมกับสอบถามความสนใจเบื้องต้น

...


จากนั้นเขาก็ส่งแพลตฟอร์มให้เพิ่มเพื่อนในแอปพลิเคชันไลน์ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ตนเชื่อถือเพราะ ไอดีไลน์เป็นของบริษัท หลังจากเพิ่มเพื่อนแล้วเขาก็ส่งรายละเอียดของบริษัทมาให้ เป็นใบจดทะเบียนบริษัท ตนเอาชื่อบริษัทไปค้นข้อมูลทางธุรกิจจริงๆ

หลังจากแอดไลน์บริษัทแล้ว เขาจะสร้างโปรไฟล์พนักงานให้เรา มีการถามประวัติเบื้องต้น แล้วให้เราเอาโปรไฟล์นี้ไปยื่นกับ "ผู้ช่วย" ซึ่งผู้ช่วยจะทำหน้าที่สอนงาน

คุณใบเฟิร์น เล่าต่อว่า ก่อนจะเริ่มทำงานจริง จะต้องผ่านกระบวนการคัดเลือก 2 รอบ โดยรอบแรกจะให้เข้าโอเพนแชท เมื่อเข้าไปแล้วจะมีกิจกรรมให้ทำประมาณ 2-3 อย่าง กิจกรรมแรกจะเป็นแบบทดสอบความรู้ ซึ่งแบบทดสอบนี้ค่อนข้างน่าเชื่อถือ เป็นการวัดความรู้จริงๆ เกี่ยวกับวิธีการลงทุน หลังทำแบบทดสอบเสร็จจะให้เพิ่มเพื่อนไปหาอีกคน เรียกว่า "ติวเตอร์" ทำหน้าที่ประเมินคะแนน

กิจกรรมที่ 2 จะสอนวิธีการพูดคุยกับลูกค้า มีสถานการณ์สมมติให้เราวางแผนโฆษณาแพ็กเกจการเงินให้กับลูกค้า จากนั้นจะเป็นกิจกรรมที่ 3 เกี่ยวกับค่าคอมมิชชั่น ซึ่งกิจกรรมนี้จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอกเอาเงิน โดยเขาจะส่งลิงก์หน้ารายการสินค้ามาให้เราแคปหน้าจอ ลิงก์ที่เขาให้มานั้นจะเป็นชื่อบริษัทเพิ่มความน่าเชื่อถือ ลักษณะเป็นเหมือนลิงก์เฉพาะที่เขาทำขึ้นมา


 โดยเขาอธิบายว่า เป็นสินค้าที่ทำให้พาร์ทเนอร์ ให้เราแคปหน้าจอสินค้า แล้วให้เราโอนเงินไป จากนั้นจะมีเงินกลับคืนมาเป็นค่าคอมมิชชั่นประมาณ 10% - 30% แต่ราคาจะไม่สูง ประมาณหลักร้อยบาท เมื่อทำเสร็จจะถือว่าจบการคัดเลือกในรอบแรก สามารถออกจากโอเพนแชทได้ ซึ่งติวเตอร์จะส่งใบรับรองการผ่านกิจกรรมมาให้ เพื่อนำไปยื่นในการคัดเลือกรอบ 2

คุณใบเฟิร์นเล่าว่า การคัดเลือกรอบ 2 จะให้เราเข้าโอเพนแชทอีกอัน กิจกรรมจะคล้ายๆ กัน คือเรื่องค่าคอมมิชชั่นให้เราโอนเงิน กติกาคือ ครั้งที่ 1-4 จะให้เราโอนเงิน แล้วได้เงินกลับคืนมาเลย แต่ครั้งที่ 5 กับ 6 จะให้เราโอนเงินไปก่อนแล้วได้เงินคืนทีเดียวในครั้งที่ 6 ตอนที่ฟังกติกา ตนก็เริ่มสงสัยแต่เขาบอกว่า เป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้ว หากผ่านจะได้เซ็นสัญญาเข้าทำงาน ถ้าเราถอนตัวคนอื่นๆ ก็จะไม่ได้เงินคืนด้วย

คุณใบเฟิร์นเล่าต่อว่า กลุ่มโอเพนแชทนี้ มีทั้งหมด 5 คน แบ่งเป็นผู้ทดสอบรวมตนเองด้วยเป็น 3 คน, แอคเค้าบริษัท 1 คน และติวเตอร์ 1 คน หากใครไม่ยอมโอนเงิน หรือถอนตัว เพื่อนคนอื่นก็จะไม่ได้เงินคืนเหมือนกันและตกรอบ ทำให้ตนตัดสินใจลองดู ซึ่งครั้งที่ 1, 2 และ 3 ตนได้โอนเงินไปปกติ เป็นยอดหลักพัน โอนแล้วได้เงินคืนเลย

แต่ในครั้งที่ 4 เริ่มเกิดปัญหา ยอดโอนประมาณ 15,000 บาท แทนที่จะได้เงินกลับคืนเลย เขาบอกว่าจะไปคืนครั้งที่ 6 ทีเดียว เริ่มไม่เหมือนที่คุยกันไว้ แต่คนอื่นยังไม่ทักท้วงอะไร จนมาถึงกิจกรรมครั้งที่ 5 ยอดเงินประมาณ 3 หมื่น ก็เริ่มมีการพูดว่า ถ้าเราไม่โอน เพื่อนก็จะไม่ได้เงินเหมือนกัน ตอนนั้นตนเองเริ่มรู้สึกผิดก็เลยโอนเงินต่อ ประกอบกับคิดว่ายอดเงินไม่สูงมาก


จนมาถึงครั้งที่ 6 ยอดโอนประมาณ 6-8 หมื่น แต่ปรากฏว่า ตนกับเพื่อนอีกคนลืมเขียนหมายเหตุตอนท้าย เขาแจ้งมาว่า ระบบล็อกไม่สามารถโอนเงินคืนได้ ต้องมีครั้งที่ 7 ทำให้ยอดเงินพุ่งไปถึง 1.6 แสน ซึ่งในครั้งที่ 7 มีการเล่นตุกติก สร้างกติกาให้คนงง ทำให้คนโอนเงินผิด ไม่มีจุดทศนิยม รวมแล้วเงินที่โอนไปแล้วไม่ได้คืนประมาณ 3 แสน ซึ่งครั้งนี้ตนบอกว่าไม่มีเงินแล้ว เขาก็แนะนำให้ไปยืมเงินคนในทีม ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่า ผู้ร่วมคัดเลือกคนอื่นเป็นหน้าม้า หรือเป็นเหยื่อเหมือนกัน ซึ่งสุดท้ายแล้วตนไม่ได้ทำต่อแล้ว

หลังเกิดเรื่องตนเองได้โทรหาธนาคารแจ้งระงับบัญชี 72 ชม. และได้แจ้งความออนไลน์ ต่อมาได้แจ้งความที่ สน.ดินแดง จนวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา มีตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ติดต่อมาขอหลักฐานเป็นแชทที่คุย และข้อมูลการโอนเงิน โดยช่วงเย็นวันเดียวกัน โอเพนแชท และช่องทางการติดต่อทั้งติวเตอร์ และผู้ช่วย ถูกลบไป

ถามว่าทำไมจึงหลงเชื่อ คุณใบเฟิร์นกล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเห็นข่าวเตือนภัยมิจฉาชีพว่าใช่วิธีการหลอกวิธีนั้น วิธีนี้ แต่การหลอกให้มาเป็นนักลงทุน นักโฆษณาทางการเงิน นักขายแพ็กเกจต่างๆ ทางการเงิน ตนเองยังไม่เคยเจอ และสิ่งที่คิดว่าเขาทำแล้วน่าสนใจคือ มีใบจดทะเบียน มีหน้าเว็บไซต์ ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าเป็นบริษัทจริงๆ หรือไม่ ประกอบกับวิธีการที่คุย การคัดเลือกคนดูมีความน่าเชื่อถือ


แต่สิ่งที่อยากให้ระวัง ไม่อยากให้คนตกเป็นเหยื่อ ส่วนมากที่เจอจะเป็นโฆษณาที่บอกว่า มีแพ็กเกจที่น่าสนใจมากๆ เช่น ทำงานที่บ้านได้ มีคนสอนงาน ค่าตอบแทนดี ซึ่งเป็นงานที่ได้เงินง่าย แม้ว่าขั้นตอนการคัดเลือกจะดูน่าเชื่อถือ แต่การให้คะแนนผ่านง่ายเกินไป

นอกจากงานนี้ ตนเองยังเห็นโฆษณาในอินสตาแกรมที่คล้ายๆ กันคือโฆษณาให้ทำเทียน สกรีนกระเป๋า/เสื้อ แพ็กของที่ไม่ต้องลงทุนก่อน มีอุปกรณ์ให้ มีสอนออนไลน์ แพ็กของเสร็จก็ได้เงินเลย ซึ่งอาจจะไม่ใช่การหลอกลวงทั้งหมด แต่อยากให้ทุกคนระวังไว้ ตนเคยเข้ากลุ่มนั้น มีคนอยู่ในกลุ่มเป็นพันๆ คนเลย น่าจะโดนหลอกเยอะ.