เส้นทางชีวิต "สิระ เจนจาคะ" จากอดีต สส.กทม. สู่โดนจำคุกจากข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา "เหรียญทอง" และข้อหาบุกรุก "โรงพยาบาลสนาม"
จากกรณีวันที่ 18 มิ.ย. 2568 "ศาลฎีกา" พิพากษาจำคุก "สิระ เจนจาคะ" 6 เดือน 20 วัน ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ และบุกรุกโรงพยาบาลสนามด้วย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุม "นายสิระ" ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ประวัติ "สิระ เจนจาคะ" จากเด็กบ้านนอกสู่เศรษฐีธุรกิจรถหรู
ประวัติ นายสิระ เจนจาคะ เกิดวันที่ 5 ม.ค. 2507 ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ปัจจุบันอายุ 61 ปี เป็นบุตรของ นายสมโภชน์ และ นางจรี เจนจาคะ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี จากหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต (การจัดการ) มหาวิทยาลัยเกริก
"สิระ" เคยเล่าว่า ฐานะทางบ้านยากจน เมื่อเรียนจบ ม.3 ที่บ้านไม่มีเงินส่งเสีย และไม่มีงานให้ทำ เขาจึงตัดสินใจนั่งรถไฟเข้ามาเสี่ยงดวงในเมืองกรุง ตอนนั้นอายุแค่ 15 ปี ทำมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นขายก๋วยเตี๋ยว เซลล์ขายรถยนต์ รวมถึงช่วงหนึ่งยังเคยเดินแบบหาเลี้ยงตัวเอง หลังจากใช้ชีวิตกับงานหลากหลายอาชีพได้ระยะหนึ่ง เขามีโอกาสได้ทำงานตำแหน่งเซลล์ขายรถยนต์ และด้วยความที่เขาเป็นคนมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน เขาได้เป็นเจ้าของกิจการรถเบนซ์ วอลโว่ และรถยุโรปในที่สุด
เมื่อชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ โชคชะตาพัดพาเขาไปพบกับ "วังจั่นน้อย ส.พลังชัย" ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น "วังจั่นน้อย ส.สิระดา" ซึ่งสิระนั้นชอบแม่ไม้มวยไทยอยู่แล้ว จึงเข้าสนับสนุนเต็มที่ ภายหลังวังจั่นน้อยแขวนนวม อำลาวงการมวย ถือเป็นการอำลาวงการมวยของสิระด้วยเช่นกัน
ต่อมา มีมรสุมลูกใหญ่ (วิกฤติฟองสบู่แตก) เข้ามาในชีวิตอย่างจัง สิระเคยเล่าถึงช่วงชีวิตเวลานั้นว่า ต้องยอมเจ็บปวดอยู่คนเดียว การใช้ชีวิตประจำวันพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ต้องไปกินนอนอยู่ที่ท้องสนามหลวง ต้องใช้ใต้สะพานปิ่นเกล้าเป็นที่อาบน้ำ หาเงินด้วยการเก็บขวดพลาสติกขาย และนอนที่ป้ายรถเมล์ ประมาณ 2 เดือน ชนิดที่ว่าเครียดจนอยากขับรถพุ่งชนสิบล้อ เพื่อที่จะเอาเงินประกัน 20 ล้านบาท ตอนนั้นคิดแก้ปัญหาโดยเริ่มจากไปหาเจ้าหนี้และขอประนอมหนี้ จากหนี้จำนวน 3 ล้านบาท ทำงานหาใช้คืนเขาไม่นาน โดยหันมาเปิดสำนักงานกฎหมายที่พัทยา ทำอยู่ 3 ปีจึงฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง
...
กระทั่งเกิดไอเดียบรรเจิด หลังจากได้เดินทางไปดูบ้านทรงไทยจากสถานที่ต่างๆ จึงหันมาเอาดีธุรกิจบ้านทรงไทย โดยเริ่มจากการซื้อเศษไม้เก่าๆ มาสร้างเป็นศาลาทรงไทยหลายรูปแบบ โดยราคาขายมีให้เลือกเริ่มจาก 5 แสนบาทถึง 10 ล้านบาทต่อหลัง จนเขาสามารถเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการบ้านทรงไทย
เส้นทางการเมือง "สิระ เจนจาคะ" จากอดีต สส.กทม. สู่โดนจำคุกคดีหมิ่นประมาท-บุกรุก
- ปี 2554 "สิระ" เคยสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต 11 กรุงเทพมหานคร สังกัดพรรครักษ์สันติ แต่ไม่ได้รับเลือก ต่อมา หลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 สิระได้รับเลือกเป็น สปช.ด้านสังคม มีผลงานที่ผู้คนจำได้ คือออกโรงขวางการเปิดบ่อนกาสิโนของ สปช.กลุ่มรักชาติ และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. แบบเต็มตัว
- ปี 2561 "สิระ" เข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยบอกเหตุผลว่า ได้รับอนุญาตจากอดีตพระพุทธะอิสระ ให้มาสนับสนุน ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติทำงานต่อ เนื่องจากมีอุดมการณ์เดียวกัน
- ปี 2562 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 ได้ลงสมัครเป็น สส. กรุงเทพมหานครอีกครั้ง ในนามพรรคพลังประชารัฐ เขต 9 เขตหลักสี่ ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสภาผู้แทนราษฎร
- ปี 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้ "สิระ เจนจาคะ" สส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ หลุด ส.ส. ชี้ขาดคุณสมบัติ เหตุเคยต้องคำพิพากษา-ติดคุกคดีฉ้อโกงเมื่อปี 2538
- ปี 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก "สิระ" ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา "พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส" กรณีไปพูดในรายการทีวีเมื่อปี 2562 ว่าได้เป็น ผบ.ตร. เพราะปฏิวัติ สั่งจำคุก 8 เดือน ปรับ 2 หมื่น รอลงอาญา 2 ปี
- ปี 2567 "พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ" มอบทนายฟ้อง "สิระ" เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท ข้อหาละเมิดไขข่าว ปมอ้างชื่อช่วย "สามารถ เจนชัยจิตรวนิช" คดีดิไอคอน จ่อฟ้องร้องคดีอาญาเพิ่มอีก
- 18 มิ.ย. 2568 "ศาลฎีกา" พิพากษาแก้ให้จำคุก "สิระ" 6 เดือน 20 วัน ไม่รอลงอาญา คดีหมิ่นประมาท "หมอเหรียญทอง" บุกรุกโรงพยาบาลสนาม พร้อมคุมตัวเข้าเรือนจำทันที.