หดหู่มาก "หนูน้อยวัย 5 ขวบ" นอนกอดศพพ่อ เรียกตื่นกินข้าวโดยไม่รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว ล่าสุด พม. เร่งให้การช่วยเหลือแล้ว
จากกรณีเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return Part 6 ได้โพสต์คลิปวิดีโอและข้อความ โดยระบุว่า "เคสนี้น่าสงสารสุดๆ ผู้ใหญ่ใจดีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสื่อสังคมช่วยเด็กด้วย สุดเศร้าหนูน้อยนอนกอดพ่อ เรียกพ่อตื่นกินข้าวโดยที่ไม่รู้ว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่อาสาเข้าตรวจสอบ พบชายนอนเสียชีวิต ข้างกายมีเด็กน้อยวัยประมาณ 4-5 ขวบ นอนกอดร่างของผู้เป็นพ่ออยู่ เจ้าหน้าที่ได้เรียกเจ้าหนูน้อยให้ออกมา แต่เจ้าหนูน้อยยังไม่ออกยังคงกอดพ่อ เจ้าหน้าที่อาสาใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าเด็กน้อยจะออกมา สอบถามญาติเพิ่มเติม ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวและเจ็บป่วยมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว แต่ยังคงพูดคุยได้ จนมาถึงวันนี้ผู้เสียชีวิตได้หลับแล้วไหลเสียชีวิตไป เบื้องต้นบ้านค่อนข้างยากจนและมีแต่ผู้สูงอายุ อาสาสมัครและทีมงานสวนหลวงวันนี้กำลังจะหาวิธีการช่วยและให้ญาติดำเนินการพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป"
ล่าสุด วันที่ 3 มิ.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ภายในซอยสุขุมวิท 93 ซอยพึ่งมี 30 จุดเกิดเหตุกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญูเร่งเข้าช่วยเหลือ หนูน้อยวัย 5 ขวบ พบเป็นเด็กหญิงกำลังนอนกอดศพบิดาที่นอนเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-7 ชั่วโมง ด้วยสภาพของหนูน้อย ขณะนั้นซูบผอมหิวโซ เนื่องจากไม่ได้รับประทานข้าวมาหลายวัน ทำให้ตัวเด็กนั้นไม่ค่อยจะมีแรง
จากการพูดคุยของกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู นายธราทร เกตุลอย อายุ 36 เล่าว่า ขณะนั้นตนกำลังอยู่ที่บ้าน ก็มีเพื่อนบ้านดังกล่าวมาตามให้ไปดูพี่คนที่ป่วยอยู่บริเวณกลางซอย จึงรีบไปที่เกิดเหตุก็พบหนูน้อยกำลังนอนกอดพ่อที่นอนเสียชีวิต ตอนแรกพวกเราได้ยินตะโกนเรียกแล้วจำนวนหลายครั้งแต่ไม่มีการตอบสนอง จากนั้นเราก็ได้เข้าไปเขย่าตัวกลับพบว่าร่างกายเย็น เลยคิดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5-6 ชั่วโมง จากนั้นเราก็ดำเนินการกล่อมหนูน้อยให้ออกมาจากบริเวณนั้นและหาข้าวหาน้ำให้ทาน
...
ตอนนั้นเราหยิบน้ำดื่มให้น้อง ก็รู้สึกว่าน้องคงไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะว่าการกินน้ำของน้องเหมือนกระหายน้ำ ดื่มกินอย่างรวดเร็ว กระทั่งเจ้าหน้าที่แพทย์นิติเวช มาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตจากการป่วย จึงมอบญาติให้ไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา จากนั้นพวกเราก็ช่วยกันดำเนินการ ช่วยเหลือทางด้านการฌาปนกิจที่วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม จากการที่เราเห็นภาพแรกในที่เกิดเหตุนั้นรู้สึกหดหู่ แม้เคยช่วยเหลือมาแล้วหลายเคสก็ตาม แต่พอมาเห็นเคสนี้รู้สึกว่าหดหู่แบบบอกไม่ถูก สงสารน้อง
ทางด้าน นางกิติมา ลายลิขิต อายุ 84 ปี และ นางภัสพร ชัยสุขเกษม 62 ปี ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน เล่าว่า ตนกับลูกอยู่ด้วยกันมากับผู้ตาย ก่อนหน้านี้เดิมทำงานรับจ้างทั่วไปและเก็บขวดขาย หลังจากคบกับแฟนก็มีลูกด้วยกันหนึ่งคน ผู้ตายก็เลี้ยงดูแลมาตลอดแต่แม่เขาก็ไม่มา มีแต่ฉันกับลูกช่วยกันดูแลหาข้าวหาปลาให้กิน เด็กมันติดพ่อก็เลยลำบากนิดหน่อย เวลาพ่อเขาไปข้างนอกเราก็จับมาอาบน้ำและคอยหาข้าวหาปลาให้กินพอพ่อเขามาล้มป่วยลงเราก็มาช่วยดูแล
อีกทั้งเราก็อายุเยอะแล้ว ลูกสาวก็ไม่ได้ทำงานต้องออกไปหาเงิน เลยไม่ค่อยมีเวลาดูส่วนใหญ่เขาจะอยู่กับพ่อเขา จนวันที่พ่อเขาเสียเขายังนอนกอดอยู่ตามคลิปเลย แต่ว่าตอนนี้ก็ดีใจที่ทาง พม. นำไปดูแลก่อน หากวันหน้าเรามีเงินก็จะไปรับมาเลี้ยงเหมือนเดิม ย้ำพวกเราไม่ได้ทอดทิ้ง แต่ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้แล้วเราก็ยังไม่มีรายได้จึงต้องพึ่งพา พม.ให้ช่วยดูแลแต่ก็ไม่ได้ทิ้ง มีเวลาก็จะไปเยี่ยมด้วยเหมือนกัน.