สมาคมพยาบาลฯ ออกแถลงการณ์ กรณีพยาบาลสาวเกาะสมุย ไม่ได้ออกไปสถานบันเทิง ก่อนกลับมาเข้ามาถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ยันเพิ่งออกเวรดูแลคนป่วย

จากกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.อัญชุลี วงศ์เมือง อายุ 36 ปี พยาบาลโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เสียชีวิตภายในห้องพักพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยเพื่อนไปพบศพเมื่อช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ก่อนที่ทางพยาบาลจะเสียชีวิต ได้ออกไปที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ล่าสุดตำรวจจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้มีการสรุปคดีภายหลังสอบพยานแวดล้อมเพิ่มเติมแล้วพบว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีการออกไปเที่ยว โดยหลังจากที่พยาบาลสาวออกจากโรงพยาบาล ได้ขับรถกลับมาที่ห้องพักเพื่อพักผ่อน ก่อนที่จะถูก นายสุวัฒน์ ขุนทอง อายุ 30 ปี คนร้าย ซึ่งเป็นแฟนของผู้ช่วยพยาบาลสาวที่อยู่ห้องติดกัน งัดประตูหลังห้องของผู้ตายเข้าไปเพื่อที่จะขโมยถุงทองที่อยู่บนโต๊ะ แต่ผู้ตายตื่นมาเจอ จึงพยายามต่อสู้ กระทั่งถูกทำร้ายจนเสียชีวิต 

ล่าสุดสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ออกแถลงการณ์แสดงความอาลัย และเสียใจต่อการจากไปของ น.ส.อัญชุลี วงศ์เมือง พร้อมเรียกร้องความรับผิดชอบจากการรายงานข่าวพยาบาลผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า ศาสตราจารย์ ศิริอร สินธุ ในนามของสมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย และสมาชิกพยาบาลทั่วประเทศ ขอแสดงความอาลัยและเสียใจอย่างสุดซึ้งในการจากไปของคุณพยาบาล อัญชุลี วงศ์เมือง ผู้เป็นที่รักของครอบครัว เพื่อนร่วมวิชาชีพและผู้ป่วยนับไม่ถ้วน จากเหตุการณ์อันโหดร้าย สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2568

รายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ก่อเหตุได้ลักลอบปีนเข้าห้องพักของผู้เสียชีวิตในยามวิกาล หวังขโมยทรัพย์สิน แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นและพยายามต่อสู้ จึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิต สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทยฯ ขอประณามการกระทำที่โหดเหี้ยมอำมหิตในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินการอย่างถึงที่สุดกับผู้กระทำความผิด

...

และว่าคืนสุดท้ายนั้น เธอไม่ได้ออกไปเที่ยวกลางคืน ไม่ได้นำชายคนร้ายกลับมาด้วยตามที่มีรายงานก่อนหน้านี้ แต่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจในการปฏิบัติหน้าที่ในหอผู้ป่วยจนหลังเที่ยงคืน ทั้งนี้ ความเท็จต้องไม่กลายเป็นคำพิพากษาที่ติดตัวผู้จากไปอย่างไม่ยุติธรรม เนื่องจากเธอคือผู้ที่เคยดูแลลมหายใจของผู้คนมากมาย จึงควรถูกยกย่องในฐานะคนที่ทำงานเพื่อสุขภาพและชีวิตของสังคม 

ด้านคดี พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยข้อมูลทางคดี ยืนยันอีกครั้งว่า ในวันเกิดเหตุ ทางผู้เสียชีวิตนั้นไม่ได้ไปที่ไหน เลิกงานแล้วกลับมาพักที่ห้องพักเพียงลำพัง ก่อนถูกนายแบงค์ ผู้ต้องหาที่พักอยู่ห้องติดกัน และมีปัญหาทางการเงิน ก่อนเกิดเหตุเห็นว่าห้องผู้เสียชีวิตเปิดไฟอยู่ ส่วนแฟนสาวของตัวเองนอนหลับ จึงปีนจากด้านหลังห้อง เข้าไปในห้องผู้เสียชีวิตเพื่อขโมยทรัพย์สิน แต่ผู้เสียชีวิตนั้นตกใจตื่นขึ้น และเกิดการต่อสู้ ก่อนถูกทำร้ายจนเสียชีวิต และพยายามอำพรางศพว่าเป็นเรื่องชู้สาว พร้อมขโมยทรัพย์สินหลบหนีไป หลังจากนี้รอผลชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมอีกครั้ง