ลูกสาวประกาศตัดแม่ตัดลูกผ่านโซเชียล ทำคนเข้ามาคอมเมนต์เสียงแตก ขณะผู้เป็นแม่แจง ยอมรับทำผิดเอง จะให้ก้มกราบเท้าก็ยอม
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความประกาศตัดแม่ตัดลูก โดยระบุว่า "ขออนุญาตใช้ช่องทางนี้โพสต์ชี้แจงนะคะ ดิฉันนางสาวพันธ์ทิวา ขอยุติบทบาทการเป็นลูกสาวของนางสาวสุภัตร ผู้เกี่ยวข้องเป็นมารดา นับตั้งแต่นี้ไป เรา 2 คนไม่มีพันธะต่อกัน เนื่องจากนางสาวสุภัตร ผู้เป็นมารดาของดิฉันได้นำรูปของดิฉัน และรูปลูกสาวลูกชายของดิฉันไปแอบอ้างและหลอกลวงเงินจากคนอื่น ตอนนี้ได้มีหลักฐานการโอนเงิน และมีผู้เสียหายได้พยายามติดต่อทวงเงินจากดิฉัน ซึ่งดิฉันไม่เคยรับรู้เรื่องราวนี้เลย แต่นางสาวสุภัตร ผู้เป็นมารดา ได้นำรูปและข้อมูลส่วนตัวของดิฉันไปแอบอ้างทั้งหมด
หากผู้เสียหายได้ผ่านมาเห็นโพสต์นี้ขอให้ส่งหลักฐานการคุยและการโอนเงินมาทางข้อความได้เลยนะคะ รายละเอียดมีมากกว่านี้แต่ไม่ขอลงรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะจะมีผลในการดำเนินคดี เหตุผลที่ออกมาโพสต์ 1.เพื่อชี้แจงและปกป้องสิทธิ์ของดิฉันและบุตรของดิฉันทั้ง 2 คน 2.เพื่อความปลอดภัยของดิฉันและบุตรของดิฉันทั้ง 2 คน 3.เพราะดิฉันใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำงาน หากมีคนนำรูปไปใช้เพื่อหลอกลวงแบบนี้ การทำงานของดิฉันจะไม่มีความน่าเชื่อถือ ตอนนี้กำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐาน และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" พร้อมทั้งมีการนำรูปภาพ หญิง 2 ราย ยืนคู่กันอยู่โดยหญิงสาวเหมือนกับใส่ชุดนักศึกษายืนถือใบประกาศการจบการศึกษา โดยมีหญิงผมสั้นยืนอยู่ข้างๆ ต่อมาก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก โดยเป็น 2 ฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับนางสาวสุภัตรา อายุ 60 ปี ใน ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ผู้เป็นแม่เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่มีการโพสต์ข้อความลักษณะขอตัดขาดจากความเป็นแม่ลูกกันว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า ผู้โพสต์นั้นเป็นลูกสาวปัจจุบันอยู่ที่จังหวัดชลบุรี
...
โดยนางสาวสุภัตรา นั้นเปิดร้านอาหาร กล่าวว่า ตนเองไม่ขอชี้แจงอะไรเพราะตนเองได้รับผิดไปแล้ว และได้ตกลงกันรู้เรื่องแล้ว มีการตกลงใช้หนี้ว่าจะชดใช้หนี้กันอย่างไร ถ้าเขาจะเอาคู่กรณีก็คือตัวเขานั่นแหละ แต่ถ้าจะให้ไปขึ้นศาลวันไหน ตนเองไม่มีเงินไปให้เอาหมายจับมาเลย ถ้าเขาบอกว่าแม่ผิด ก็ยอมรับ ตนเองก็ไม่เคยขอให้ลูกอภัยให้ ถ้าเขาอยากจะทำอะไรก็ให้ทำไป ซึ่งตนเองก็บอกกับลูกว่าจะไม่หนีไปไหน ตนเองจะรออยู่แล้ว
เบื้องต้น ลูกสาวหาว่าตนเองเอารูปหลานไปแอบอ้าง คือตนก็ยอมรับว่าตนผิด แต่ถ้าลูกสาวมองว่าทำแล้วสบายใจก็ทำไป ในส่วนของความเป็นแม่ ก็ยังรักลูกเหมือนเดิม ไม่ได้โกรธลูก คนเป็นแม่ยังไงก็ไม่โกรธลูก เมื่อตนทำผิดก็ยอมรับผิด ซึ่งก็มีข่าวเยอะแยะ แต่มีข่าวแม่ที่ฆ่าลูกบ้างไหม คือเพราะมันเป็นข่าวดังมันกระทบทำให้ร้านเสียหาย ซึ่งตนก็ปล่อยเขา อยากจะทำอะไรก็ทำ
แต่ตนยืนยันว่ายังรักลูกเหมือนเดิม ยอมรับว่าที่ผ่านมานั้นลูกสาวเสียหายจริง แต่เราไม่ได้ไปหลอกคนในออนไลน์ เราเล่นกันในเกม ซึ่งตนไม่ได้เอาชื่อไปหลอกเอาเงินในออนไลน์ มีหรือไม่นั้นตนตอบเลยว่าไม่มี ถ้าลูกไม่ยอมจบ ถ้าลูกทำแล้วสบายใจก็ตามใจ วันนี้ตนเองไม่อยากจะฝากบอกอะไรลูก เพราะลูกมองว่าตนเองไม่สำนึกจึงต้องปล่อยให้เขาทำไป ตนนั้นมีลูกคนเดียว ปัญหาคือตนเองนั้นผิด ส่วนลูกนั้นไม่ผิด จะให้ลูกมาขอโทษตนเรื่องอะไร แต่ถ้าจะให้ตัวเองมากราบเท้าลูกก็ขอโทษ ตนเองก็ยอม ลูกไม่ต้องมาขอโทษแม่ ตนเองทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก
ตนเองนั้นผิดตรงที่ว่าเอารูปของหลานไปเล่นเกม จะให้ตนเองไปขอโทษลูกต่อหน้าทุกคนตนเองก็ทำได้ ยังยืนยันว่าลูกนั้นไม่ผิดอะไรเลย ถามว่าตนเองน้อยใจหรือไม่ ตนเองไม่ได้น้อยใจเลย แต่ที่ตนรู้สึกเสียใจเพราะว่ามีคนถามว่า ทำไมตนไม่รู้จักทำงานถึงไม่มีบ้านให้ลูกอยู่ ซึ่งมันไม่มีแม่คนไหนหรอกที่ไม่อยากมีบ้านให้ลูกอยู่.