"น้องฟ้าใส" ร้องไห้ ซึ่งใจคนแห่ให้กำลังใจ-สนับสนุน คลิปไวรัลไม่มีเพื่อนคบเพราะเก็บขยะ ด้านแม่เครียด กลัวข้อครหา ไม่กล้าเปิดบัญชี พร้อมยืนยันจะทำอาชีพนี้ต่อ และจะส่งลูกให้เรียนจบสูงๆ
จากกรณีที่ "สไปร์ท SPD" ได้แชร์คลิปที่เข้าไปพูดคุยกับ "น้องฟ้าใส" เด็กหญิงช่วยแม่เก็บขยะ จนกลายเป็นไวรัล เนื่องจากน้องบอกว่า ตัวเองไม่มีเพื่อน เพราะเป็นเด็กเก็บขยะ ไม่มีเพื่อนคบ พร้อมกับร้องไห้ออกมา และเมื่อนำเงินให้น้องก็ยิ่งร้องไห้ และว่าไม่อยากรับเงิน จึงเลือกที่จะพาไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อแทน จึงกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึง คนกดไลค์ 1 ล้านไลค์ และยอดคนดู 24 ล้านวิว กำลังเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ (เปิดใจ "น้องฟ้าใส" คลิปไวรัล "สไปร์ท SPD" ไม่มีเพื่อนคบเพราะเก็บขยะ)
ล่าสุดวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อไปพบกับ ด.ญ.อัจฉริยาพร หงวนกระโทก อายุ 12 ปี หรือ น้องฟ้าใส และ นางศศีณีกานต์ หงวนกระโทก แม่ดา อายุ 50 ปี ซึ่งทั้งคู่เดินทางมารอพบ นายเนติเจน เนติรัตนไพบูลย์ หรือ สไปร์ท SPD ยูทูบเบอร์ชื่อดัง
...
ในระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสไปดูน้องฟ้าใสกับแม่เดินหาขวดพลาสติก กระป๋อง และลังกระดาษในถังขยะ ซึ่งในแต่ละวันน้องกับแม่จะขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง สภาพเก่าๆ ไม่มีไฟท้ายและไฟหน้าออกจากห้องแถวย่าน ต.นาจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี มุ่งหน้ามายังถนนเลียบชายหาดเมืองพัทยา เพื่อเก็บของเก่า โดยบนรถจะมีแมว 3 ตัว มาด้วยตลอด
โดยจุดแรกที่น้องจะต้องไปหาของเก่า คือถังขยะหน้าร้านสะดวกซื้อ บนถนนเลียบชายหาด จากนั้นจะขี่ลัดเลาะไปตามถนนเลียบชายหาดเข้าถนนวอล์คกิ้งสตรีท และจบที่ซอยบัวขาวพัทยากลาง ทุกๆ ครั้งที่น้องฟ้าใสไปหาของเก่า น้องจะปีนขึ้นไปบนถังขยะ แล้วรื้อถังขยะเพื่อหาขวดพลาสติก กระป๋องและลังกระดาษ
ซึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปกับน้อง จะเห็นน้องขั้นปีนลงไปในถังขยะ จนบางครั้งก็พลาดตกลงในถังขยะ แต่น้องก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเอง โดยน้องไม่มีท่าทีรังเกียจและช่วยแม่เก็บของเก่าอย่างมีความสุข
แม่ดา เปิดใจกับทีมข่าวว่า แม่เริ่มทำอาชีพเก็บของเก่าช่วงน้องฟ้าใส อายุได้ประมาณ 1 ขวบ 1 เดือน ตอนนั้นพ่อของน้องเสียชีวิตแล้ว แม่จึงตัดสินใจมาทำอาชีพนี้ ซึ่งตอนนั้นจะพาน้องฟ้าใสมาด้วยตลอดโดยจะใช้วิธีแขวนเปลแล้วให้น้องนอนอยู่ในเปลแขวนตลอด แม่ยอมรับว่าที่ผ่านมาชีวิตลำบากมาก ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นแม่บ้าน แต่ด้วยที่แม่เป็นคนตัวเล็ก ไปทำสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ โดยใช้เหตุผลว่าแม่ตัวคงทำงานไม่ไหว แต่ปัจจุบันแม่ก็ดีใจที่ได้ทำอาชีพนี้ โดยมีรายได้วันละ 180-200 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน เช่นค่าเช่าบ้าน ลูกชายคนรอง ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย จะเป็นคนจ่ายค่าเช่าให้ ส่วนค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ก็จะเป็นเงินแม่กับน้องที่ช่วยกันหามา
นอกจากนี้ แม่ดายังบอกว่า ตอนนี้รู้สึกเครียดมากเพราะมีคนโทรศัพท์มา และมีความประสงค์จะสนับสนุนเงินโดยมีการขอหมายเลขบัญชี ซึ่งแม่ยืนยันว่าแม่ไม่มีหมายเลขบัญชี และแม่ไม่ต้องการที่จะเปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงิน เพราะกลัวจะถูกบูลลี่ และข้อครหาต่างๆ พอหลังจากที่ตกเป็นข่าว เดินไปไหนก็มีแต่คนทักว่า "คนดังมาแล้ว" ยิ่งทำให้แม่รู้สึกไม่สบายใจ และแม่ยังยืนยันว่าจะทำอาชีพนี้ต่อ และจะส่งน้องฟ้าใสให้เรียนจบสูงๆ ส่วนเรื่องจะช่วยสนับสนุนน้อง ทางแม่ขอกลับไปปรึกษากันในครอบครัวก่อน ว่าจะสามารถสนับสนุนด้วยทางใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามน้องฟ้าใสว่า รู้สึกอย่างไรหลังจากที่มีผู้คนมากมายต้องการจะช่วยเหลือน้อง น้องกลับถึงร้องไห้โฮและโผล่กอดผู้เป็นแม่ ก่อนจะยกมือไหว้ และพูดว่า "หนูขอขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนและให้กำลังใจ และให้ของต่างๆ ทั้งตุ๊กตา และของใช้ภายในบ้าน และที่สำคัญขอบคุณพี่สไปร์ท ที่ช่วยเหลือหนูทุกอย่าง"
น้องฟ้าใส ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมายอมรับว่าเครียดเรื่องที่ถูกเพื่อนล้อเลียน ว่าเป็นเด็กเก็บขยะ แต่น้องก็มีเพื่อนสนิท เป็นผู้หญิงชื่อว่าปันปัน เป็นเพื่อนที่เข้าใจ และเพื่อนเล่นมาโดยตลอด ตอนนี้กำลังจะขึ้น ป.6 และกำลังจะเปิดเทอมในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ โดยมีความฝัน 2 อย่างคือ อยากดูแลและเลี้ยงแม่ให้อยู่สบาย และอยากเป็นยูทูบเบอร์ เพื่อให้คนมาติดตาม
นอกจากนี้ แม่ดา ยังเล่าให้ฟังอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 7 พฤษภาคม (เมื่อคืนที่ผ่านมา) มีชายชาวต่างชาติ (เป็นฝรั่งค่อนข้างมีอายุ) นำกระดาษมาโยนในรถเข็นเก็บของเก่าของแม่ เมื่อหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นแบงค์สกุลเงินต่างประเทศ เมื่อนำไปให้วินรถจักรยานยนต์ดู ก็บอกว่าเป็นแบงค์ยูโร จำนวน 100 ยูโร ทางคนขี่วินก็บอกว่า ให้นำไปแลกคงได้เงินหลายบาท ด้วยความดีใจนำไปแลกที่ตู้แลกสกุลเงินต่างประเทศ ปรากฏว่า พนักงานแจ้งว่าเป็นแบงค์ปลอม แถมยังถูกพนักงานตำหนิว่า "อย่าไปแลกที่ไหนเพราะเป็นแบงค์ปลอมระวังถูกจับ" แม่ตกใจ ไม่คิดว่าจะถูกฝรั่งชาวต่างชาติทำแบบนี้จนแม่เกือบติดคุก ไม่รู้ว่าฝรั่งมีเจตนาอะไร
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังห้องแถวของน้องฟ้าใส และได้พูดคุยกับป้าวาสนา อายุ 72 ปี ซึ่งเป็นคนดูแลห้อง เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่ขยันมาก และเป็นคนสะอาดถึงแม้จะมีอาชีพเก็บขยะของเก่า และที่สำคัญครอบครัวนี้กินแต่ไข่กับมาม่า ไม่ค่อยได้กินอาหารอย่างอื่นเหมือนครอบครัวทั่วไป โดยจะซื้อไข่วันละ 20 บาท ในบ้านจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ก็จะกินไข่คนละฟองเท่านั้น จากนั้นก็จะพากันออกไปเก็บของเก่า ส่วนพี่ชายอีก 2 คน คนแรกทำอาชีพพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนคนที่สองประกอบอาชีพเป็นคนส่งพัสดุ
ส่วนกระแสข่าวที่หนุ่มสไปร์ท SPD ยืนยันว่าจะเดินทางมาพบน้องช่วงเย็นของวันนี้ หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป.