สาวร่ำไห้ ดีใจได้ลูกวัย 1 เดือนคืน จากบ้านอดีตสามี หลังเจรจาไกล่เกลี่ยลงตัว ต่างฝ่ายต่างขอโทษ ด้านฝ่ายชายน้อมรับผิด ยันอุปการะบุตรต่อ
จากกรณี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" พา น.ส.น้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 26 ปี พร้อมแม่ เดินทางเข้าพบ ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ช่วยเหลือหลังถูกแม่อดีตสามี ซึ่งเป็นแพทย์ใหญ่ในโรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่งใน กทม. กีดกันไม่ต้อนรับเป็นลูกสะใภ้ ส่วนอดีตสามีก็เชื่อฟังแม่ ขนาดตั้งท้องอยู่ยังไม่เห็นใจ สั่งห้ามเข้าบ้านให้นั่งรออยู่ในรถร้อนๆ นานกว่า 2 ชั่วโมง และขอตัดสัมพันธ์ห้ามเธอมายุ่งเกี่ยววุ่นวายอีกเพราะจะกระทบต่อหน้าที่การงาน มิหนำซ้ำหลังคลอดลูกได้เพียง 1 เดือน อดีตสามีและแม่สามี ได้บุกเข้าบ้านแย่งลูกน้อยออกไปจากอ้อมอก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 เม.ย. 68 ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" พร้อมด้วย น.ส.น้ำฝน และแม่ ได้เดินทางมารับลูกน้อย วัย 1 เดือนเศษ จากนายบอย (นามสมมติ) อายุ 34 ปี อดีตสามี และแม่อดีตสามี ที่บุกเข้าบ้านแย่งลูกน้อยออกไปจากอ้อมอก เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 68 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจาไกล่เกลี่ย ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถหาข้อสรุปได้
ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง กล่าวว่า ตนมองว่าตรงนี้ไม่ใช่ความหวัง แต่มองว่าต้องได้เด็กคืนวันนี้ เขาเป็นแม่มีอำนาจ 100% ตามกฎหมาย จุดประสงค์ตอนนี้คือการเอาเด็ก เด็กต้องอยู่ในอ้อมกอดของแม่ หากพ่ออยากจะขอรับดูแลลูกด้วย จริงๆ เป็นหน้าที่อยู่แล้ว หากคิดว่าคุณคือพ่อของเด็กคนนี้ โดยที่ไม่จำเป็นให้แม่ต้องไปร้องขอต่อศาลในส่วนของค่าเลี้ยงดู บางสิ่งพ่อแม่ใช้ชีวิตผัวเมียกันไม่ได้ แต่คุณต้องทำหน้าที่พ่อแม่ให้ได้ แม่ก็ไม่ได้กีดกัน แต่ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะขอลูกมาเลี้ยงดูเอง อาจจะเสาร์-อาทิตย์ สามารถรับลูกไปอยู่กับพ่อได้ แต่ห้ามเอาลูกกลับไปดูแล โดยตนให้น้องเขาตัดสินใจเอง
...
ต้นอ้อ เผยต่อว่า ตอนนี้คุณยายของเด็กจะเป็นผู้ดูแล และมีหลายๆ แบรนด์ติดต่อเข้ามาเพื่อจะให้งานรีวิวกับน้อง ที่ทราบมาฝ่ายชายมักจะดูถูกผู้หญิงอยู่ตลอด ด้วยหน้าที่การงานไม่สูงส่งเท่ากับลูกชายของเขา เพราะลูกเขาเป็นหมอ แต่ตอนนี้ต้องขอบคุณหลายๆ คน ที่ให้กำลังใจและยื่นมือเข้ามาช่วย จากส่วนตัวที่ตนเคยผ่าคลอด พบว่าน้องยังไม่ได้ดูแลแผลหลังผ่าคลอดเลย ระยะเวลา 1 เดือน ไม่ได้ทำให้แผลหายอย่างเต็มที่ ที่เหลือควรจะไปกันตามกฎหมาย
น.ส.น้ำฝน กล่าวว่า กังวลว่าจะไม่ได้ลูกคืน เพราะสู้เรื่องนี้มาถึง 2 สัปดาห์แล้ว ในเมื่อวันนี้มีโอกาสก็จะสู้ต่อให้ถึงที่สุด คือวันนี้ลูกต้องได้กลับบ้านกับตน ด้วยลักษณะนิสัยที่รู้จักมาคิดว่าจะต้องมีข้อต่อรองเพื่อให้ยังไม่ได้ลูกคืนแน่นอน แต่ยังไม่รู้ว่าจะมาวิธีไหน จริงๆ ไม่อยากเจอหน้าสักเท่าไร หากจะแบ่งเวลาขอดูลูก คิดว่ายัง เพราะด้วยปัญหาเรื้อรัง กลัวจะมีปัญหาตามมา หากต้องการเจอลูกก็เจอเป็นชั่วครั้งชั่วคราวจะดีกว่า แต่จะยังไม่มีการแบ่งเป็น 2 บ้านแน่นอน พ่อสามารถเจอได้ตลอด ไม่กีดกันอยู่แล้ว แต่ไม่มีวันจะได้ลูกกลับไปเลี้ยงอีก คิดว่ามาถึงขนาดนี้คงไม่มีเหตุผลอะไรจะไม่คืนลูกแล้ว
ส่วนตัวไม่ได้คิดจะทำอะไรเลย ในเรื่องของโรงพยาบาลที่ยุติการทำงานพ่อของลูก จะต้องรอพิจารณาอีกครั้ง ตอนนี้มีเรื่องเสื่อมเสียไปถึงเขาเยอะ แต่ที่ทำไปแค่ต้องการอยากได้ลูกคืน ไม่ได้อยากให้เขาเสียหน้าที่การงาน หากมีโอกาสได้พูดคุยกับทางโรงพยาบาล ก็หวังอยากจะให้พ่อของลูกได้ทำงานที่นั่นต่อไป
หลังเจรจาไกล่เกลี่ยไปกว่า 1 ชั่วโมง ทางครอบครัวของฝ่ายชายจึงมอบลูกน้อยวัย 1 เดือนเศษ คืนให้กับฝ่ายหญิง ก่อนที่จะทำบันทึกข้อตกลงไว้เป็นหลักฐาน โดยมี ดร.มนต์ชัย จงไกลรัตนกุล หรือทนายแก้ว ทนายความของฝ่ายหญิง และ นายชัยรัตน์ ประสิทธิศักดิ์ ทนายความของฝ่ายชาย ร่วมเป็นพยาน
ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากตนเป็นผู้ไกล่เกลี่ย โดยมีเจ้าพนักงานร่วมด้วย อีกฝ่ายหนึ่งมีคุณพ่อกับคุณย่า และทนายความ อีกฝ่ายมีคุณแม่กับคุณยาย และทนายแก้ว สรุปในเรื่องของการที่ตกลงกันและเป็นไปตามพระราชบัญญัติไกล่เกลี่ย 2562 วันนี้จากที่คุณต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง ได้ยื่นเรื่องทางกระทรวงฯ เพื่อหาแนวทางในการยุติความไม่สบายใจในครอบครัว ขอแบ่งเป็น 4 ประเด็น ดังนี้
หากทั้ง 2 ฝ่าย มีข้อขัดข้องอย่างไร แย้งได้เลย 1. การส่งมอบเด็กให้อยู่ในความปกครองของคุณแม่ ซึ่งทุกคนได้เห็นแล้วว่าคุณพ่อได้ส่งมอบลูกให้กับแม่จริงๆ 2. เรื่องของคุณพ่อเองจะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลให้คุณพ่อมีสิทธิทางกฎหมายเป็นผู้ครอบครอง โดยมีทนายความดำเนินการให้ และทางคุณแม่ก็จะไม่มีข้อคัดค้านใดๆ 3. มีการตกลงการดูแลในฝ่ายของคุณหมอ จะดูแลลูกโดยการส่งค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรอย่างไร รวมถึงตกลงต่อศาลเพื่อขอบุตรมาดูแล ตรงนี้ให้เป็นเรื่องในศาลต่อไป 4. ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ติดใจและประสงค์จะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อกัน ดังนั้นข้อกฎหมายที่ได้มีการไปร้องทุกข์กับศาลยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนอยู่ ยังหาพยานหลักฐานไม่เรียบร้อย ถือว่าคดีความยังไม่เดินหน้าไป
ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายขอโทษต่อกัน ทุกสิ่งที่ผ่านมา ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ของเด็ก ทุกคนมีข้อผิดพลาดต่างกัน ทั้ง 2 ฝ่ายจะแยกกันอยู่ ไม่ประสงค์จะอยู่ร่วมกันอีก คุณแม่เองจะขอโทษคุณย่าและคุณหมอด้วย ทุกคนมีความรู้สึกรักลูกหลานด้วยกันทั้งนั้น หากจะมีอะไรเกิดขึ้นทุกคนมีความประสงค์เดียวกัน อย่างไรก็แล้วแต่ทุกอย่างมีข้อกฎหมายอยู่ด้วย อยากให้จากนี้ต่อไปครอบครัวควรจะหาคนกลางเพื่อพูดคุย หรือหากพูดคุยกันได้ก็ควรจะพูดคุยกัน สุดท้ายแล้วคำว่าหน้าที่ของพ่อกับแม่ยังต้องดำเนินต่อไป กลับไปคิดให้ถี่ถ้วนทั้งคู่ วันนี้จบด้วยดีก็รู้สึกดี ต่อไปนี้จะทำหน้าที่พ่อกับแม่ให้ดี
ด้าน น.ส.น้ำฝน กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรักสามีจริงๆ แม้แต่วันที่เขาทิ้งไป เสียใจกับทุกๆ อย่าง วันนี้ที่ตนทำเพื่อต้องการเจอลูก ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาทำให้ครอบครัวอดีตสามีไม่พอใจ ตนอยากขอโทษ แต่ไม่เคยมีจิตใจที่ไม่ดีเลย ในอนาคตตนสัญญาว่าจะไม่ไประราน ยุ่งเกี่ยวอะไรกับทางครอบครัวของอดีตสามีให้เสื่อมเสีย ขอบคุณที่ทางครอบครัวอดีตสามีดูแลค่าใช้จ่ายให้ตนได้คลอดลูกในโรงพยาบาลที่ดี ขอบคุณอดีตสามีที่รักลูก และขอบคุณช่วงเวลาดีๆ ที่มีให้กัน
นายบอย อดีตสามี กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนขอโทษในสิ่งที่ทำให้เดือดร้อนทั้งในอดีตที่ผ่านมา บางเรื่องตนไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี แต่การกระทำบางอย่างอาจจะไม่เหมาะสมและการแสดงออกอาจจะไม่ชัดเจน ตนขอน้อมรับผิดไว้ ส่วนเรื่องบุตรเราจะให้การสนับสนุนดูแลในเรื่องการอุปการะคุณต่อไป