เปิดประวัติ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. หนึ่งในทีมแข็งแกร่งของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ตอบคำถามฉะฉาน เข้าใจง่าย ประวัติการทำงานไม่ธรรมดาสมฉายาผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติ

ท่าทีการตอบคำถามสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศอย่างกระชับและเข้าใจง่ายของ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ขณะลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ติดอยู่ในใต้ซากอาคารถล่มจากแผ่นดินไหว ในพื้นที่จตุจักร กลายเป็นภาพที่หลายคนให้ความสนใจและได้รับคำชื่นชมอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้คนฟังเข้าใจสถานการณ์มากขึ้นแล้ว ยังเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนเพิ่มขึ้นไปอีก

"ทวิดา กมลเวชช" ประวัติการทำงานไม่ธรรมดา

ปัจจุบัน รศ.ทวิดา กมลเวชช ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นหนึ่งในทีมแข็งแกร่งของผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ซึ่งที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินชื่อของ รศ.ทวิดา เมื่อบ้านเมืองเกิดน้ำท่วม วิกฤติฝุ่น PM 2.5 ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการภัยพิบัติมาแก้ปัญหาต่างๆ 

สำหรับการศึกษาของ รศ.ทวิดา กมลเวชช จบปริญญาตรี สาขาบริหารรัฐกิจ (เกียรตินิยมอันดับ 1) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ปริญญาโท Public Management (GCPM) School of Social Sciences, University of South Florida, USA, ปริญญาเอก (การบริหารสาธารณะและนโยบาย) School of Public and International Affairs, University of Pittsburgh, USA, ประกาศนียบัตรด้านการบริหารและการจัดการสาธารณะ University of South Florida, USA

...

ในด้านของการทำงาน ก่อนจะมารับตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กทม. เคยเป็นอาจารย์ประจำสาขาบริหารรัฐกิจและนโยบายสาธารณสุข และคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยังเคยผ่านการทำงานในเหตุการณ์สำคัญมาหลายครั้ง ตั้งแต่สมัยเหตุการณ์สึนามิ เมื่อปี 2547 รวมไปถึงการระบาดของโควิด-19 และการจัดการออกแบบนโยบายสาธารณะในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ รศ.ทวิดา กมลเวชช ยังเป็นบุตรของนายทวีศักดิ์ กมลเวชช อดีตผู้อำนวยการเขตพญาไท ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ รศ.ทวิดา กมลเวชช มีความคุ้นเคยในพื้นที่และการทำงานของ กทม. เป็นอย่างดี และที่สิ่งสำคัญที่ทำให้หลายคนเชื่อมั่น นั่นคือการที่เจ้าตัวลงพื้นที่จริง

รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่า กทม. ลงพื้นที่อาคารถล่ม

อย่างเช่นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 68 ที่ รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ได้กล่าวภายหลังลงพื้นที่ร่วมกับนายกรัฐมนตรี เพื่อติดตามการกู้ภัยและช่วยชีวิตผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคารกรณีเหตุอาคารถล่ม ในพื้นที่เขตจตุจักร ถึงสาเหตุที่ไม่สามารถให้คนเข้าพื้นที่ค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคาร สตง.ถล่ม ในวินาทีที่ตรวจพบสัญญาณชีพของผู้รอดชีวิต

โดยบอกว่า "ตอนนี้ทุกวินาทีมีค่ามากจริง ๆ เมื่อตรวจจับสัญญาณต้องการความเงียบ เพราะสัญญาณที่เราตรวจจับได้อ่อนจะไม่ได้ยิน ทำให้เห็นพื้นที่ลำบาก ช่วยได้ช้า สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือขอความร่วมมือทุกคนให้ความร่วมมือเพื่อให้การค้นหาจุดสัญญาณชีพเป็นไปโดยเร็วที่สุด" ซึ่งเป็นเหตุนายกรัฐมนตรีเลือกออกจากพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่หน้างาน.