วิจารณ์สนั่น คลิปไกด์ชาวไทย ชักชวน นทท. ลงถ่ายภาพ "เสือดำ" ระยะใกล้ หวั่นความปลอดภัย ด้าน กรมอุทยานฯ สั่งลงโทษ ปรับวินัยแล้ว 6 พันบาท
กลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก Parinya Photography Passion ได้โพสต์คลิปวิดีโอของนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า เสือดำซวยแล้ว แฟนเพจส่งคลิปนี้มาร้องเรียน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ลักษณะเป็นแขก 4 คน ลงจากรถมาเดินไล่บี้กดดันเสือดำบนถนน หวังจะได้ภาพสวยๆ เหนือใคร โดยไม่เคารพนักท่องเที่ยวคนอื่น ที่นั่งถ่ายจากบนรถ
ผลก็คือ เสือดำที่จ้ำหนีคนกลุ่มนี้ ทนการคุกคามไม่ไหว เดินลงจากถนน หนีเข้าป่าไปเลย เหตุเกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา บริเวณ กม.21 เส้นทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง อุทยานฯ แก่งกระจาน
ต้องย้ำหลักการอีกครั้ง สัตว์จำพวกเสือกลัวคน ไม่กลัวรถ (ที่ขับย่องตามช้าๆ) ห้ามลงจากรถไปถ่ายเสือดำแบบนี้ ร้อยทั้งร้อย เสือจะหนีแน่นอน ทั้งที่ไอ้ดำมหากาฬอุตส่าห์ใจดีกับนักท่องเที่ยวยิ่งกว่าป่าไหนๆ ในไทย แต่ยังมีคนเห็นแก่ตัว ละเมิดเสือดำอย่างที่เห็น
ที่ฟังแล้วตกใจ คนร้องเรียนบอกว่า แขกกลุ่มนี้มีไกด์คนไทยพามา การปล่อยให้ลูกค้าทำแบบนี้ เหมือนไกด์ไม่รู้จักธรรมชาติขั้นเบสิกของสัตว์ป่า
"ต้องไม่ทำลายโอกาสของตัวเองและผู้อื่น" เป็นกติกาการดูสัตว์ที่ต้องยึดถือครับ ทุกคน ถ้าเสือดำเลิกใจดีกับคน เพราะรับไม่ได้กับพฤติกรรมแบบนี้ สักวันจะเหลือแต่ถนนเปล่าๆ ให้ดู
ซึ่งหลังจากคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ทั้งยังกังวลว่าเสือดำจะได้รับอันตราย หรือตกเป็นเป้าของกลุ่มคนไม่ประสงค์ดีหรือไม่
...
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีภาพและคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นนักท่องเที่ยวลงจากรถเพื่อถ่ายภาพเสือดำบริเวณ กม.20 เขาพะเนินทุ่ง เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568 นั้น หลังจากทราบเรื่อง ทางอุทยานฯ ได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยละเอียด พบว่า นายเสริมสุข (สงวนนามสกุล) ผู้ประกอบการรถนำเที่ยว เป็นผู้ชักชวนนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นช่างภาพจำนวน 4 คน ให้ลงจากรถเพื่อถ่ายภาพเสือดำในระยะใกล้ และยังชักชวนนักท่องเที่ยวจากรถคันอื่นให้ร่วมกระทำความผิดด้วย
นายมงคล กล่าวว่า แม้ในการสอบถามครั้งแรก ผู้ประกอบการรายนี้จะให้การว่านักท่องเที่ยวกระโดดลงจากรถเองและห้ามไม่ทัน แต่จากหลักฐานภาพและวิดีโอที่มีผู้ร้องเรียนส่งมายังเพจอุทยานฯ ชี้ชัดว่าเขาเป็นผู้ชักชวนและมีเจตนาฝ่าฝืนกฎของอุทยานฯ โดยตรง ทางอุทยานฯ จึงมีคำสั่งปรับพินัยผู้ประกอบการรายนี้ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าหน้าที่ (มาตรา 20) เป็นเงิน 5,000 บาท และข้อหาไม่อำนวยความสะดวกต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในการสอบสวน (มาตรา 36(1)) เป็นเงินอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,000 บาท และหากพบว่าผู้ประกอบการรายนี้กระทำความผิดซ้ำ จะถูกปรับเพิ่มเป็น 20,000 บาทในครั้งที่ 2 และหากมีการกระทำผิดครั้งที่ 3 จะถูกปรับเต็มอัตรา 100,000 บาท พร้อมถูกยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการรถนำเที่ยวในอุทยานฯ อย่างถาวร
ทั้งนี้ ขอย้ำเตือนผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวทุกท่านว่าการลงจากรถเพื่อถ่ายภาพสัตว์ป่าในระยะใกล้ นอกจากจะเป็นอันตรายต่อนักท่องเที่ยวแล้ว ยังรบกวนและอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมของสัตว์ป่า ซึ่งเป็นทรัพยากรสำคัญของชาติที่เราต้องช่วยกันอนุรักษ์
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Parinya Photography Passion, กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช