ไกด์หนุ่มแชร์อุทาหรณ์ "ลูกทัวร์" เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น หยิบกระเป๋าสัมภาระผิดใบ สุดอึ้งเปิดดูด้านในเจอ "กัญชาอบแห้ง" หนัก 24 กก. เจอ จนท. สอบสวนทั้งวัน

กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Heng On Tour ได้โพสต์เรื่องราวระบุข้อความว่า เคสนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับลูกค้าและตัวเอง…

เริ่มเรื่องลูกค้าไม่เคยเดินทางออกต่างประเทศเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทุกอย่างลูกเป็นคนจัดการให้ ซื้อตั๋วสายการบินภายในประเทศ โดยสายการบินแห่งหนึ่ง จากสนามบินสุราษฎร์เดินทางสู่สุวรรณภูมิ

โหลดกระเป๋าสัมภาระมาสองชิ้น ใบสีดำและสีแดง ปรากฏว่าสีแดงถูกแต่สีดำหยิบผิดใบมา ไปหยิบของฝรั่งมาซึ่งไม่ได้ตรวจเช็คว่ากระเป๋าถูกหรือไม่

ส่วนฝรั่งที่โหลดกระเป๋าสัมภาระสีดำมา พอไม่มีกระเป๋าตัวเองก็มาแจ้งสายการบินเจอสัมภาระหลงเหลืออยู่หนึ่งใบ สายการบินพยายามโทรตาม ตามเบอร์ที่ออกตั๋ว ปรากฏลูกสาวไม่ได้พกโทรศัพท์ไปด้วย เลยไม่ได้รับสาย

คุณแม่คุณพ่อก็ไม่ได้สังหรณ์ใจหลังจากรับกระเป๋าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่งรออยู่ที่สุวรรณภูมิเกือบ 4 ชั่วโมงโดยไม่ได้เปิดกระเป๋า และคิดว่าเป็นกระเป๋าของตัวเอง

ถึงเวลาหนึ่งทุ่มครึ่งทีมงานนัดหมายเวลาลูกค้าหลังจากรับลูกค้าก็ติดแท็กสัมภาระและทำการโหลดกระเป๋าสายการบินไทยเพื่อที่จะมุ่งหน้าสู่นาริตะโตเกียว

หลังจากมาถึงสนามบินนาริตะโตเกียวผ่านการตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อย หัวหน้าทัวร์รับกระเป๋า สัมภาระและให้ลูกค้าเปิดเพื่อที่จะทำการล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้า

คุณพ่อคุณแม่เปิดกระเป๋าไม่ได้เลยโทรหาลูกสาวให้ดูกระเป๋าปรากฏลูกสาวบอกไม่ใช่กระเป๋าใบนี้ ได้แจ้งหัวหน้าทัวร์ หัวหน้าทัวร์ตรวจสอบมีสติกเกอร์บาร์โค้ดเป็นชื่อฝรั่ง ยืนยันว่ากระเป๋าผิดใบแน่นอน..

...

หัวหน้าทัวร์ติดต่อแจ้งศุลกากรสนามบิน หลังจากนั้นสอบสวนยาวเช้ายันเย็นตั้งแต่ 8.00-17.30 น. น้ำไม่ได้ดื่มสักหยดข้าวไม่ได้ทานสักเม็ด

หัวหน้าทัวร์ติดต่อแจ้งศุลกากรสนามบิน หลังจากนั้นสอบสวนยาวเช้ายันเย็นตั้งแต่ 8.00-17.30 น. น้ำไม่ได้ดื่มสักหยดข้าวไม่ได้ทานซักเม็ด

แต่สุดท้ายด้วยความบริสุทธิ์ใจในการสำแดงสิ่งของทำให้ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าตัวลูกค้าและหัวหน้าทัวร์ไม่ได้มีความตั้งใจจะนำสิ่งของผิดกฎหมายเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น

หัวหน้าทัวร์ และลูกค้าทั้งสองผ่านเข้าสู่ประเทศได้อย่างปลอดภัยในเวลา 17.50 น.

ความประมาทเลินเล่อความไม่ใส่ใจ อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่อาจจะบานปลายไปกว่านี้ได้ ดีที่วันนี้แก้ไขปัญหาต่างๆไปได้ด้วยดี ส่วนคณะที่เหลือท่องเที่ยวได้ตามปกติ

สรุป วันนี้จากต้องไปนอนฟูจิหัวหน้าทัวร์และลูกค้าอีกสองคนต้องมาเปิดโรงแรมนอนแถวแถวนาริตะ พรุ่งนี้ค่อยเข้าเมืองโตเกียว

ฝากคำถามทิ้งไว้กับกฎหมายประเทศไทย และการตรวจของการท่าอากาศยาน

กัญชา 24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุราษฎร์มาลงสุวรรณภูมิได้โดยไม่มีการตรวจสอบ

กัญชา 24 กิโลสามารถผ่านสนามบินสุวรรณภูมิมาจนถึงนาริตะได้โดยไม่มีการตรวจสอบเช่นกัน

ขอบคุณทุกคนที่แสดงความห่วงใยเข้ามาครับ ขอบคุณทุกจังหวะที่ทำให้โชคดีและรอดมาได้โดยปลอดภัย

ถ้าตั้งใจทำอะไรต้องทำให้มันสุด..บอกเลย สุดแล้ว

หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีคนที่มองว่าเป็นความผิดพลาดของทางลูกทัวร์เอง ที่ไม่ได้มีการตรวจเช็กกระเป๋าสัมภาระของตัวเองให้เรียบร้อย ขณะที่บางส่วนก็มองถึงความอันตรายและความปลอดภัยของระบบการตรวจเช็กสัมภาระของสนามบิน นอกจากนี้ยังมีอีกส่วนที่มองถึงข้อแตกต่างในเรื่องกฎหมาย "กัญชา" ที่แต่ละประเทศบังคับใช้ไม่เหมือนกัน จึงอาจจะมีการตรวจสอบที่ไม่เหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันที่ 15 มีนาคม 2568 ทางไกด์เจ้าของโพสต์ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หลัก ๆ เลยคือปัญหาเรื่องการไม่ตรวจเช็กสัมภาระ หยิบของคนอื่นไปผิด ในกรณีนี้ถ้าเกิดเป็นสิ่งของปกติคนอื่นอาจจะเดือดร้อนด้วยความผิดพลาดของเรา ส่วนอีกเรื่องก็น่าจะเป็นเรื่องกัญชาเสรีที่สามารถขนได้เยอะขนาดนี้โดยไม่มีกฎหมายควบคุม.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Heng On Tour