ห้างทองออกแถลงการณ์ กรณีผัวเมียเข้าแจ้งความ หลังนำ "สร้อยคอทองคํา" ไปล้างด้วยน้ำยาล้างจานแล้วลอก ตรวจข้อเท็จจริงพบ "สร้อยทอง" ถูกสับเปลี่ยนไปโดยลูกชายของลูกค้า

จากกรณีที่ สองสามีภรรยา ได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา พร้อมเผยว่า ได้ซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท ในราคา 69,900 บาท จากร้านทองแห่งหนึ่ง โดยใส่มาตั้งแต่วันซื้อช่วงปลายปี 66 จนถึงปัจจุบัน แต่เมื่อสองวันที่ผ่านมา ได้สังเกตเห็นว่าสร้อยคอทองคำเริ่มหมอง จึงถอดมาล้างด้วยน้ำยาล้างจาน เพื่อทำความสะอาด ซึ่งพบว่าสร้อยคอเริ่มลอก เป็นสีไม่สวยบริเวณหลายจุด ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ จึงตัดสินใจนำสร้อยคอมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแจ้งความ แต่ทางตำรวจไม่สามารถรับการแจ้งความในทันที โดยแนะนำให้ไปสอบถามข้อเท็จจริงกับร้านทองที่ซื้อมาก่อน

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ล่าสุดวันที่ 24 ก.พ. 68 ทางเพจเฟซบุ๊ก ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ได้มีการโพสต์ประกาศชี้แจงโดยระบุข้อความว่า แถลงการณ์ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ

ตามที่เกิดเหตุการณ์มีลูกค้าเข้าแจ้งความที่สถานีตํารวจภูธรรัตนาธิเบศร์ไว้ว่า "สร้อยคอทองคําที่ซื้อมา จากร้านทองเยาวราชกรุงเทพเกิดการลอก" แต่พนักงานตํารวจไม่ได้รับแจ้งความนั้น ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว จึงขอชี้แจงให้ทราบดังนี้

ภายหลังจากที่ห้างทองเยาวราชกรุงเทพรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ได้มีการติดต่อ ลูกค้าในทันทีเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ลูกค้าได้แจ้งว่า "ความจริงแล้วสร้อยคอทองคําที่นําไปแจ้งความนั้น เป็นสร้อยที่ถูกสับเปลี่ยนโดยลูกชาย ซึ่งเป็นบุคคลในครอบครัว" เจ้าของสร้อยคอทองคําตัวจริง ได้แจ้งข้อมูล ดังกล่าวนี้ไปให้ทางสาขาร้านทองทราบเรียบร้อยแล้ว ไม่ติดใจเอาความ เป็นอันตกลงเข้าใจกันด้วยดี

...

ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ ในฐานะที่เป็นร้านทองที่ดําเนินกิจการด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจในมาตรฐานของ สินค้าและบริการและเป็นธรรมแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุดเสมอมา ขอขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้ความร่วมมือให้ข้อมูลอันเป็นข้อเท็จจริง สร้างความกระจ่างต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนผ่านพ้นไปด้วยความเข้าใจอันดี 

ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ 24 กุมภาพันธ์ 2568


ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก ห้างทองเยาวราชกรุงเทพ