หมอชายแดนเหนื่อยใจ แฉพฤติกรรมกร่างของ "ชาวอิสราเอล" ใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ก่อความวุ่นวายที่ รพ. ด่าหมอ-สูบบุหรี่ ชี้เคยร้องเรียนไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข
กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก หมอบ่น AggressiveDoctor ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของคุณหมอคนหนึ่งในโรงพยาบาล อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่า ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นจังหวัดชายแดนที่มีฝรั่งอิสราเอลมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
โดยในทุกๆ วันที่ได้ตรวจ จะได้เจอปัญหาซ้ำๆ ไม่ว่าจะเป็น ชี้หน้าด่าหมอ วุ่นวาย โชว์นิ้วกลางใส่หมอ ไม่เชื่อหมอประเทศไทยแต่มาตรวจ (ส่วนมากจะมานอกเวลาราชการ) แล้วบอกจะถามหมอตัวเอง ว่าหมอตัวเองสั่งให้ทำแบบนี้ สูบบุหรี่ใน รพ. ชาร์จแบตใน รพ. ไม่จ่ายเงิน ขโมย ทุบประตูอีอาร์ เปิดร้านสอนขับรถ เปิดโบสถ์ และให้ตำรวจไปเฝ้า รถชนรถล้มมาบ่อยๆ ไม่มีใบขับขี่ ชอบค่าพยาบาลไม่ยอมให้เจาะเลือด ไม่ยอมให้ทาแผล
ทั้งยังบอกอีกว่า เคยส่งเรื่องไปให้อำเภอ ร้องเรียนไปแล้ว แต่ว่าอำเภอแจ้งกลับมาบอกว่า อย่าทำลายการท่องเที่ยว แบบนี้ร้องเรียนใครได้อีกบ้างไหม เหนื่อยมากๆ กับการคุยกับคนไข้อิสราเอล รู้สึกชีวิตไม่ปลอดภัย ถ้าไปเจอข้างนอก กลัวจะโดนรุม สุดท้ายคงไม่พ้นได้ลาออก
ทั้งนี้ ทางเพจดังกล่าว ยังได้มีการเผยแพร่คลิปของกลุ่มชายอิสราเอล 2 คนที่อยู่ในภาพในบริเวณโรงพยาบาล โดยระบุว่า พวกอิสราเอล สูบกัญชา ตีมึนในโรงพยาบาล
ซึ่งหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก อาทิ เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเลยค่ะ ที่คุณหมอพูดมา เราอยู่ปาย, ยืนยันอีกเสียง ไม่เคยเจอคนน่ารักเลยสักคน แอดมิดไอซียูแต่จะสูบบุหรี่ โวยวายด่าพยาบาล, เรื่องจริงค่ะ ไม่ใช่แค่ที่ปาย ที่ กทม. พวกนี้มา รพ. ก็ไม่เชื่อหมอไม่ให้เจาะเลือด ยินยอมให้การรักษา แต่มายืนด่าเอาๆ ต้องการหายเองแบบไม่กินยา, ในตัวเมืองเชียงใหม่ก็เจอบ่อยค่ะ ส่วนตัวเปิดร้านขายยา เขามักจะติดต่อกับหมอบ้านเขา เอาตัวยาแปลกๆ ชื่อยาแปลกๆ มาถามซื้อ พอซักถามอาการเพื่อจะปรับยาให้ ก็ไม่เชื่อ ไม่ให้เกียรติบุคลากรการแพทย์บ้านเราเลย ฯลฯ
...
ทั้งนี้ยังมีการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือผู้มีอำนาจแก้ปัญหาดังกล่าว รวมถึงหามาตรการป้องกันที่เด็ดขาด และเข้มงวด เพื่อให้ทางโรงพยาบาลยังเป็นพื้นที่ปลอดภัย และให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกคน ไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก หมอบ่น AggressiveDoctor