ไขข้อสงสัย "เงินดิจิทัล 10,000 บาท" ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง คาดระยะเวลาการใช้จ่ายครอบคลุมถึง 2 เทศกาลใหญ่ แนะอย่าลืมศึกษาวิธีการใช้จ่ายเงิน "ดิจิทัลวอลเล็ต"
ภายหลังจากการเปิดให้ลงทะเบียน โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยเปิดให้ประชาชนกลุ่มใช้สมาร์ทโฟน ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ตั้งแต่เวลา 08.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม-15 กันยายน 2567 โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิในโครงการฯ นั้น
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลกำหนดระยะเวลาการใช้จ่ายสำหรับประชาชน ว่าจะต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายใน 6 เดือน ดังนั้นจะครอบคลุมระยะเวลาการใช้จ่ายถึง 2 เทศกาลใหญ่ คือ เทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ 2568 ซึ่งมีโอกาสที่ประชาชนจะกลับบ้านกลับภูมิลำเนา เพื่อไปใช้จ่าย หลังจากนี้ รัฐบาลจะแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้อีก 2 ครั้ง คือ
1. การลงทะเบียนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน จะแถลงอย่างเป็นทางการวันที่ 10-15 ก.ย. และจะมีการระบุว่าหน่วยงานไหนบ้างที่รับลงทะเบียน
2. จะแถลงประกาศวันที่จะมีการใช้จ่าย เหตุที่ยังไม่กำหนดเพราะอาจมีการปรับระยะเวลาช้าหรือเร็วขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบการใช้จ่าย

...
เงินดิจิทัล 10,000 ซื้ออะไรได้บ้าง
- สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ข้าวสาร, ไข่ไก่, เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) สบู่, ยาสีฟัน, ผงซักฟอก, กะปิ, น้ำปลา, ซอสปรุงรส ฯลฯ
- สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน, เครื่องเขียน, สมุด, ปากกา, ดินสอ ฯลฯ
- สินค้าวัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย, ยาปราบศัตรูพืช, เมล็ดพันธุ์พืช ฯลฯ
- สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผักสด, ผลไม้, อาหารสด, เครื่องจักสาน ฯลฯ
- ยารักษาโรค เช่น ยาแก้ปวด, ยาลดไข้, ยาแก้ท้องเสีย ฯลฯ
เงินดิจิทัล 10,000 ซื้ออะไรไม่ได้บ้าง
- สลากกินแบ่งรัฐบาล
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ผลิตภัณฑ์ยาสูบ กัญชา กระท่อม พืชกระท่อม ผลิตภัณฑ์กัญชาและกระท่อม
- บัตรกำนัล บัตรเงินสด
- ทองคำ
- เพชร พลอย อัญมณี
- น้ำมันเชื้อเพลิง
- ก๊าซธรรมชาติ
- เครื่องใช้ไฟฟ้า
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- เครื่องมือสื่อสาร

วิธีการใช้จ่าย "เงินดิจิทัล 10,000 บาท"
- รอบที่ 1 เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก
1. ประชาชนต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้า ที่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด โดยไม่รวมห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศ และระดับท้องถิ่น
2. ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง
3. เป็นการใช้จ่ายเชิงพื้นที่ในระดับอำเภอ (878 อำเภอ) โดยประชาชนต้องมีที่อยู่ในทะเบียนบ้านในอำเภอเดียวกันกับสถานประกอบการของผู้ประกอบการร้านค้าขนาดเล็ก
4. การซื้อ-ขายสินค้า ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้ากันแบบพบหน้า (face-to-face) และไม่มีกระบวนการใดๆ ในการซื้อขายที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือผ่านคนกลาง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด และไม่ให้ทำซ้ำ ส่งต่อหรือวิธีการอื่นใดกับ QR Code ในแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมแบบพบหน้าดังกล่าว
- รอบที่ 2 เป็นต้นไป เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า
1. ผู้ประกอบการร้านค้าต้องชำระค่าสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์บนแอปพลิเคชันของหน่วยงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ให้แก่ผู้ประกอบการร้านค้าอีกแห่งหนึ่ง
2. ต้องมีการซื้อ-ขายสินค้ากันจริง.
อ้างอิง : digitalwallet.go.th