เจ้าของร้านชา เจ้าดังกำแพงเพชร แจงอีกมุม หลังเพจดังอ้าง ยึดพื้นที่สาธารณะ เป็นพื้นที่ของตนเอง ขณะที่ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผยข้อมูล ศาลานี้เป็นของหมู่บ้าน ใครก็มาขายได้ คนในตำบลไม่ได้เดือดร้อนอะไร
วันที่ 9 ก.ค. 67 จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ "อีซ้อขยี้ข่าว3" มีการแชร์ภาพร้านขายชา กาแฟ พร้อมแคปชั่น ระบุว่า "ถ้าขายดีได้วันละหลายหมื่นก็ควรไปหาเช่าที่เปิดร้านให้เป็นกิจลักษณะ ไม่ใช่ยึดพื้นที่สาธารณะที่เป็นศาลารอรถประจำทางเป็นพื้นที่ของตนเอง...ร้านชาดังใน Tiktok กำแพงเพชร" และยังระบุด้วยว่า "ขายตรงนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นทำให้ใครเดือดร้อน ทำผิดจนเป็นกลายเป็นเรื่องปกติ"
ซึ่งหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ วันนี้ที่รอคอย, ถึงคิวแล้วดิ, อยากชิมมากกกกกกก ไถไปเจอทุกคืนเลย, จริงครับ ทำผิดจนคิดว่าเป็นเรื่องปรกติ, สิ่งที่คาใจฉันมานาน ฯลฯ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบร้าน "ชามั้ย" ซึ่งเป็นร้านมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง มาจอดขายบริเวณหน้าศาลาติดกับโรงเรียนบ้านเทพนคร หมู่ที่ 15 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบกับ น.ส.วันนิษา พลอาจ หรือ ฟิล์ม อายุ 23 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ยินดีรับฟังคำติชมต่างๆ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่พื้นที่ของกรมทางหลวง เป็นพื้นที่ของหมู่บ้านตำบลเทพนคร คณะกรรมการหมู่บ้านและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับรู้เรื่อง และลงพื้นที่ตรวจสอบแล้ว เพราะว่าศาลานี้เป็นศาลาที่หมู่บ้านจัดตั้งขึ้นมา ที่ผ่านมาเคยมีเรื่องร้องเรียนแบบนี้เช่นกัน ทางกรมทางหลวงมีหนังสือให้จัดระเบียบรถ ซึ่งตนก็ยินดีรับฟัง พร้อมกับมีการจัดระเบียบรถของลูกค้าที่มาจอดซื้อ เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจรบนถนนสายหลัก ซึ่งพื้นที่ศาลาตรงนี้ คนอื่นก็สามารถมาขายได้ไม่ได้จำกัดเฉพาะร้านของตน แต่ก็ยินดี และน้อมรับทุกความเห็น เพื่อไปปรับปรุงแก้ไข
...
ด้าน น.ส.ชนานันท์ อินทร์รอด ชาวมหาสารคาม แม่ค้าส่งที่เดินทางมารับเครื่องดื่มจากร้าน "ชามั้ย" ไปขายที่จังหวัดชลบุรี สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เปิดเผยว่าที่ ตนต้องลงทุนขับรถมารับไปขายต่างจังหวัดเพราะรสชาติ ราคา ปริมาณ และความสะดวกในการขายให้กับลูกค้า ส่วนเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น จริงๆ เป็นเรื่องของคนในชุมชนที่อยู่ร่วมกัน ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องเอาไปดราม่า
ขณะที่ นางอุบลรัตน์ ชัยผุย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ศาลาแห่งนี้เป็นของหมู่บ้าน ใช้สำหรับ ชรบ.อยู่เวร ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา หลังจากสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว ไม่ได้มีการมาเข้าเวร จึงมีชาวบ้านมาขายของ ไม่ใช่แค่ร้าน "ชามั้ย" ร้านเดียว ชาวบ้านคนอื่นก็มาตั้งขายด้วย ที่ผ่านมามีเรื่องร้องเรียนเหมือนกัน มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ แล้วทำบันทึกข้อตกลงในเรื่องของที่จอดรถไม่ให้กีดขวางทางจราจรถนนสายหลัก ส่วนชาวบ้านในตำบลไม่ได้เดือดร้อนอะไร น่าจะเป็นคนนอกพื้นที่มากกว่า.