"สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์" นำร่องยกระดับการศึกษาไทย ชูหลักสูตรอินเตอร์สองภาษาเชนแรกในไทย พร้อมเล็งอีสานในอีก 3-5 ปี เผยหลักสูตรอินเตอร์สองภาษาออกแบบเข้ากับผู้เรียนแต่ละพื้นที่ เข้าเรียนต่อได้ทุกโปรแกรมทั้งไทยและเทศ
ดร.อภิรมณ อุไรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ (Arthit Ourairat Institution) หรือ AOI กล่าวว่า จากข้อมูลของธนาคารโลก ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในประเทศไทยมีค่อนข้างสูง โดยนักเรียนที่มีฐานะสามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพสูง ในขณะที่นักเรียนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ ความเหลื่อมล้ำนี้มีมากขึ้นจากค่าเล่าเรียนสูงของโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งผู้ปกครองไทยส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึง AOI จึงต้องการแก้ไขปัญหา ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาให้กับสังคมไทย โดยการสร้างหลักสูตรที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานนานาชาติ ด้วยค่าเล่าเรียนที่เข้าถึงได้
ทั้งนี้ ทางสถาบันยึดนักเรียนเป็นศูนย์กลาง การบูรณาการโรงเรียนต่างๆ อยู่ภายใต้สถาบัน AOI นักเรียนจะได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพสูงสุด ได้เรียนรู้แบบองค์รวมทั้งด้านวิชาการที่เป็นเลิศระดับสากล พัฒนา ปัญญา สุขภาพกาย ใจ และ สังคม สอดคล้องกับความเป็นปัจเจกบุคคล ค้นพบเอกลักษณ์ของตัวเอง โดย AOI ยังโดดเด่นในด้านนวัตกรรม และมีหลักสูตรการเรียนที่เฉพาะเจาะจง เหมาะกับกลุ่มผู้เรียนในแต่ละพื้นที่
ขณะที่ปัจจุบัน กลุ่ม AOI มีโรงเรียนตั้งอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์ของประเทศ ประกอบด้วย โรงเรียนนานาชาติบริติช ภูเก็ต (BISP) โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต (SBS รังสิต) โรงเรียนสาธิตนานาชาติทวิภาษาแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต เชียงใหม่ (SIBS เชียงใหม่) และโรงเรียนสาธิตเอสบีเอส กรุงเทพ (SBS กรุงเทพ) ที่อยู่ระหว่างก่อตั้งใหม่เป็นแห่งที่ 4 บนพื้นที่ 10 ไร่ รองรับนักเรียน 800 คน พร้อมเปิดในปีการศึกษา 2568 เป็นโรงเรียนหลักสูตรอินเตอร์สองภาษาเชนแรกในไทย โดยปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 3,000 คน ที่โรงเรียนนานาชาติบริติช ภูเก็ต (BISP) นักเรียน 80% ในภูเก็ตจะเป็นชาวต่างชาติจากหลายประเทศ เช่น รัสเซีย อเมริกา อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ขณะที่เหลือจะเป็นนักศึกษาไทยเป็นส่วนใหญ่
...

ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดที่มีการแข่งขันสูง บริษัทได้ปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยรวมการบริหารงานของทุกสถาบันมาอยู่ภายใต้การบริหารของ AOI ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร คณาจารย์ โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นสูงร่วมกัน เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนทุกคน เช่น ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (Medical Science Center) ศูนย์นวัตกรรม (Innovation Center) และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาเฉพาะทาง สิ่งเหล่านี้ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การศึกษา และเป็นการสร้างเครือข่าย เชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน
นอกจากนี้ เรายังมีความโดดเด่นด้านโปรแกรมแนะแนวการศึกษาเรียนต่อในมหาวิทยาลัย ที่ครอบคลุมหลากหลายอย่างไร้รอยต่อบนเส้นทางการศึกษาของนักเรียน โดยออกแบบตามความต้องการและจุดแข็งเป็นรายบุคคล เตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งในไทยและทั่วโลก โดยไม่จำเป็นต้องใช้บริการแนะแนวจากภายนอก
AOI ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสรรหาและบ่มเพาะบุคลากรทางการศึกษา โดยมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อค่านิยมของสถาบันมืออาชีพเหล่านี้ ไม่เพียงแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาของตนเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการช่วยเสริมบรรยากาศและสร้างผลการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนให้ได้
ขณะที่ภาคการศึกษาของประเทศไทย ยังคงมีความจำเป็นต้องปฏิรูป ทางสถาบันจึงนำร่องในการสร้างหลักสูตรที่มีคุณภาพสูงมาตรฐานนานาชาติ พร้อมเปิดสอน 3 ภาษา ไทย อังกฤษ และจีนแมนดาริน เตรียมนักเรียนให้พร้อมเผชิญสภาพแวดล้อมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มั่นใจว่าพวกเขามีโอกาสทุกอย่างที่จะประสบความสำเร็จ และเป็นบุคลากรของชาติที่มีคุณภาพ พร้อมนำพาประเทศสู่ศตวรรษหน้าต่อไป
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีครอบครัวคนไทยเพียง 1% เท่านั้น ที่สามารถส่งลูกหลานเรียนต่อในโรงเรียนนานาชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ทางสถาบันอาทิตย์เล็งเห็นช่องว่างทางการศึกษาตรงนี้ จึงมุ่งเน้นเปิดโรงเรียนที่ให้การศึกษาที่มีคุณภาพเทียบเท่าโรงเรียนนานาชาติ แต่ในราคาที่ให้คนในวงกว้างเข้าถึงได้ง่ายกว่า ด้วยราคาที่ถูกกว่าโรงเรียนนานาชาติถึง 30-50%.