เจ้าอาวาส วัดที่กำแพงเพชร เปิดใจใช้โลงศพ ทำเป็นที่นอนมากว่า 30 ปี เขียนสั่งไว้ ตายแล้วเผาเลย ห้ามสวด ใครไม่ทำตามจะมีอันเป็นไป เชื่อไม่ใช่การแช่งตัวเอง

วันที่ 1 ก.ค. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดบ้านไร่ใหม่ ตั้งอยู่หมู่ 16 ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร มีพระครูวิกรมวชิรสาร ฉายากิตตินธโร อายุ 62 ปี เป็นเจ้าอาวาส หลังทราบว่าเจ้าอาวาสใช้โลงศพทำเป็นที่นอนมากว่า 30 ปี

โดยเมื่อเข้าไปภายในวัด พบมีการสร้างพระพุทธรูปหลายปาง โดยเฉพาะพระนอนองค์ใหญ่ปางพยากรณ์ในศาลา ซึ่งด้านข้างศาลา เป็นกุฏิของเจ้าอาวาส ภายในมีเพียงพัดลมและกระติกต้มน้ำร้อนเท่านั้น ฝ้าเพดานก็ไม่มี มีโต๊ะวางของ 1 ตัว และมีโต๊ะเตี้ยๆ สำหรับนั่งหรือนอนพัก และบางครั้งก็ใช้นั่งทำวัตรสวดมนต์เท่านั้น

นอกจากนี้ ยังพบโลงศพไม้สักสีน้ำตาลตั้งอยู่ 1 ใบ เขียนกำกับไว้ว่า พ.ศ. 2537 วันตายให้เผาเลย ห้ามสวด ห้ามรดน้ำ ห้ามทำบุญทุกอย่าง ใครไม่ทำตามจะมีอันเป็นไป ส่วนภายในโลงศพมีผ้าจีวรกรุไว้รอบโลงเพื่อกันเสี้ยนจากไม้ หมอน และห่มสีเหลืองบางๆ อีก 1 ผืน โดยที่ด้านหัวนอนภายในโลง ก็เขียนกำกับไว้ว่า ตายแล้วให้เผาเลย ส่วนด้านปลายเท้าก็มีเขียนไว้ด้วยคำว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เป็นเหตุให้เกิด

...

จากนั้น พระครูวิกรมวชิรสาร ได้สาธิตการเข้าไปนอนในโลง โดยมีมุ้งแบบแขวนที่สามารถรูดมาครอบโลงศพกันยุงได้ พร้อมขยับตัวนอนตะแคงได้ถ้าเมื่อย ซึ่งพระครูวิกรมฯ เผยว่า โลงยาง 2 เมตร อาตมาสูง 160 ซม. จึงไม่อึดอัด อากาศภายในโลงก็ไม่ร้อน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาว กลับรู้สึกอบอุ่นมาก

พระครูวิกรมฯ เผยด้วยว่า สาเหตุที่ลงไปนอนในโลงศพ เนื่องจากเคยเห็นพระลูกวัดแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด หลังจากมรณภาพแล้วไม่มีโลงใส่ศพ ญาติโยมก็ช่วยกันซื้อ เมื่อกลับถึงวัด ก็รีบไปซื้อโลงทันที โดยร้านขายให้ในราคา 15,000 บาท แต่ว่าตนเองมีเงินเพียง 5,000 บาทเท่านั้น จึงบอกกับทางร้านว่า ขอจ่ายแค่ 5,000 บาทก่อน ที่เหลือจะทยอยผ่อนให้ โดยใช้เวลา 1 ปี จึงผ่อนหมด

หลังจากที่ได้โลงศพมาแล้ว เมื่อปี 2536 ก็เริ่มลงไปนอนในโลง โดยจะทำวัตรสวดมนต์ก่อน จนถึงเวลาประมาณ 23.00 น. และลงไปนอนในโลงทุกวัน ยกเว้นวันที่มีธุระ ไม่ได้อยู่วัดเท่านั้น เวลานอนในโลงก็จะสวดมนต์ไปด้วยจนหลับไปเอง ซึ่งทำแบบนี้มากว่า 30 ปี จนชินแล้ว และการนอนในโลงก็ไม่เกี่ยวกับการมูฯ หรืออะไรทั้งสิ้น ใครจะมาขอนอน ไม่อนุญาต เพราะเป็นที่นอนของตน ญาติเคยทักท้วงว่า ไม่ควรนอนในโลงเพราะเป็นการแช่งตัวเอง แต่อาตมาเห็นว่าไม่จริง เพราะนอนมา 30 ปี ยังไม่เห็นเป็นอะไร

ส่วนที่เขียนข้างโลงศพกำกับไว้ ก็เพราะเห็นว่าเมื่อตายไปแล้ว ก็ไม่ได้อะไรไป เหมือนกับคนที่นอนหลับ นอกจากเวลาตื่นจึงอยู่ในสภาพความจริง ซึ่งก็แล้วแต่บุญบาปที่ทำไว้ ดังนั้นเมื่อตนมรณภาพ ก็ให้เผาเลยภายในวันนั้น การจัดงานจะทำให้เดือดร้อนญาติโยม ยิ่งช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ชาวบ้านก็ลำบาก ไม่อยากไปเพิ่มภาระให้ แต่ถ้าจะทำบุญให้ ก็มาทำบุญใส่บาตรทุกวันพระและกรวดน้ำอุทิศให้ก็พอ

สำหรับพระครูวิกรมวชิรสาร บวชเป็นพระที่วัดเบญจมบพิตร กรุงเทพฯ เมื่อปี 2531 บวชได้ 2 ปี ที่วัดแห่งนี้ไม่มีพระจำพรรษา จึงได้ถูกนิมนต์ให้มาเป็นเจ้าอาวาสที่วัดบ้านไร่ใหม่แห่งนี้ จากนั้นออกตระเวนธุดงค์ไปทางภาคอีสาน เคยไปอยู่กับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี หลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง และหลวงพ่อคูณ ปาริสุทโธด้วย แต่อยู่กับครูบาอาจารย์ในระยะไม่นาน เพราะส่วนใหญ่แล้วจะตระเวนอยู่ตามแนวแม่น้ำโขง หลังจากนั้นก็กลับมาอยู่ที่วัดแห่งนี้.