ผอ.โรงเรียนแจงดราม่า ภาพนักเรียนหญิงถูกเพื่อนในห้องรังแก ยันไม่มีการทำร้ายร่างกาย ล่าสุดเรียกผู้ปกครองมาคุย พร้อมแก้ปัญหาเรียบร้อยแล้ว
จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพ "นักเรียนหญิง" โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ร้อยเอ็ด ที่มีลักษณะคล้ายถูกเพื่อนในห้องรุมทำร้ายร่างกายในห้องเรียน จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมเรียกร้องให้ทางโรงเรียนจัดการ และตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบ นายยุทธพงษ์ คุริรัง ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลหนองหญ้าม้า โรงเรียนที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในสังกัดเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด (ท.5) โดยที่ นายยุทธพงษ์ ยอมรับว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในโรงเรียนจริง เหตุเกิดขึ้นในและนอกห้องเรียน ชั้น ป.6/1 ซึ่งอยู่บนชั้น 2 ของอาคารอำนวยการ
ตรวจสอบข้อที่จริงแล้วพบว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในช่วงเที่ยงวันหลังปล่อยให้เด็กรับประทานอาหาร หลังจากเด็กรับประทานอาหารแล้ว ยังไม่ถึงเวลาเข้าห้องเรียนก็เกิดเหตุขึ้น โดยที่ตนเองและครูไม่มีใครทราบ จนต่อมาปรากฏภาพและข้อมูลเผยแพร่ทางโซเชียลในวันที่ 23 มิถุนายน และเมื่อตนทราบ วันที่ 24 มิถุนายนก็ได้เรียกสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับเรียกผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมาร่วมรับฟังข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
...
จากการสอบสวนข้อเท็จจริงทราบว่า ไม่ได้มีการก่อเหตุรุมทำร้ายร่างกาย หรือบูลลี่เพื่อนนักเรียนรายดังกล่าวแต่อย่างใด พร้อมกับยืนยันว่าจากการสอบถามมูลเหตุแล้ว เด็กนักเรียนทุกคนล้วนเป็นเพื่อนกัน แต่เด็กรายที่โดนกล่าวหาว่าถูกทำร้ายนั้นเป็นคนที่มีปัญหาทางครอบครัว ไม่อยู่กับพ่อแม่ อยู่กับตายาย แต่ก็เป็นที่รักของเพื่อนทุกคน มีการเจียดเงินทอง สิ่งของเครื่องใช้และอาหารการกิน ช่วยเหลือเด็กรายดังกล่าวโดยตลอดด้วยความเห็นใจที่เป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน และด้อยโอกาสกว่าเพื่อน
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่ตรวจสอบแล้วได้รับการยืนยันตรงกันว่า เกิดขึ้นจากความไม่พอใจของเพื่อนทุกคน ที่พบว่าเด็กนักเรียนรายนั้นได้นำรางวัลที่เพื่อนนักเรียนช่วยเหลือเพื่อซื้ออาหารการกิน และอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ขาดแคลน ไปซื้อเครื่องสำอาง อุปกรณ์การแต่งหน้ามาใช้เกินตัว จนเกิดการต่อว่ากันเกิดขึ้น จนกลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทเพราะความไม่เข้าใจกัน แต่ก็ไม่มีการทำร้ายร่างกายจนถึงกับได้รับบาดเจ็บใดๆ ตามที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลทั้งสิ้น
ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการเรียกมาทำความเข้าใจกันแล้ว โดยแยกการสอบสวนออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ปกครอง กับเด็กที่มีข่าวว่ารุมทำร้ายเพื่อน ซึ่งก็ยอมรับว่าไม่ได้มีการก่อเหตุทำร้ายเพื่อน แต่เป็นการต่อว่าต่อขานกันด้วยความเห็นใจ และเสียใจที่นำเงินสำหรับซื้ออุปกรณ์การเรียนที่ขาดเกิน ไปใช้อย่างอื่นที่ผิดวัตถุประสงค์ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับจึงเกิดการโต้เถียงกันรุนแรงเกิดขึ้นดังกล่าว
และในส่วนของการสอบสวนข้อเท็จจริงก็พบว่า เด็กรายดังกล่าวมีปัญหาในครอบครัว เนื่องจากไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ซึ่งแยกทางกัน และอาศัยอยู่กับตายายที่บ้าน ซึ่งก็ยืนยันว่าให้เงินทองหลานใช้มาโดยตลอด แต่หลานมักจะโกหกไม่พูดความจริง มาขอความเห็นใจจากเพื่อนๆ และเมื่อได้เงินก็นำไปใช้ผิดประเภทจนเป็นเหตุเกิดขึ้นดังกล่าว
ซึ่งหลังจากมีการสรุปข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ทางโรงเรียนก็มีการแก้ปัญหาด้วยการแยกเด็กหญิงรายที่มีปัญหากับเพื่อนในห้อง ไปเรียนในห้อง 6/2 เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นอีก หลังจากเรียกมาตักเตือนและให้ปรับตัวแล้ว เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเรื่องราวที่กระทบต่อภาพพจน์ที่ดีของโรงเรียนเกิดขึ้นอีกต่อไป.