ชู้อย่าเพิ่งดีใจไป ทนายดัง อธิบายเพิ่ม หลังศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ สามี-ภริยา ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ได้ทุกกรณีขัดรัฐธรรมนูญ
จากกรณี ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 231 (1) ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม หรือไม่
ผู้ตรวจการแผ่นดิน (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 231 (1) ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสองที่บัญญัติว่า "สามีจะเรียกค่าทดแทนจากผู้ซึ่งล่วงเกินภริยาไปในทำนองชู้สาวก็ได้ และภริยาจะเรียกค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวก็ได้" ซึ่งมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม หรือไม่
โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1523 วรรคสอง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ จึงมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 29 วรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม และกำหนดคำบังคับให้คำวินิจฉัยมีผลเมื่อพ้น 360 วัน นับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย
อ่านต่อ : มติเอกฉันท์ "ศาลรัฐธรรมนูญ" วินิจฉัย กฎหมายฟ้องชู้ได้ทุกกรณี ขัดรัฐธรรมนูญ
ซึ่งต่อมาในโลกโซเชียล มีการตีความหมายมติที่ออกมาว่า "กฎหมายฟ้องชู้" นี้ ขัดรัฐธรรมนูญ อีก 360 วันสามีและภรรยา จะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชู้ไม่ได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทนายนิด้า ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าที่ศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า กฎหมายฟ้องชู้มาตรา 1523 วรรค 2 มีปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเรื่องความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง น่าจะมาจากข้อความที่ขีดเส้นใต้ไว้สีแดง
กล่าวคือ สามีจะฟ้องชายชู้ได้ ก็เพียงแค่เหตุที่ชายนั้นมาล่วงเกินเมียเราเท่านั้น แต่ภรรยาจะฟ้องหญิงชู้ได้ยากกว่าเพราะหญิงชู้แค่มากินกับสามีเราเฉยๆ ยังไม่ผิด จะผิดต่อเมื่อแสดงตนโดยเปิดเผยด้วย ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นความไม่เท่าเทียมกันระหว่างสามีภรรยา
ถ้าศาลมีมติด้วยเรื่องนี้ ส่วนตัวเห็นด้วย 100% ที่จะยกเลิกมาตรานี้ออกไป แล้วเขียนให้ฟ้องชู้ของทั้งสามีและภรรยาฟ้องได้ใหม่ด้วยหลักเกณฑ์ที่เสมอกัน
...
เช่นเดียวกับ ทนายเดชา ที่โพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น ผ่านเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ "#ทนายเมียหลวงคงไม่มีงานทำแล้วครับ หลังจากนี้ 360 วันฟ้องชู้เรียกค่าทดแทนกันไม่ได้แล้ว แต่ยังสามารถฟ้องหย่าด้วยสาเหตุอื่นได้นะครับ"
และว่า "ยกเลิกกฎหมายเดิมใช้คำว่าสามีหรือภรรยา เดิม ภริยาจดทะเบียนฟ้องเมียน้อยหรือหญิงชู้จะต้อง แสดงตนโดยเปิดเผยเท่านั้น หากไปล่วงเกินกันในที่ลับฟ้องร้องไม่ได้
เดิม สามีฟ้องชายชู้ได้ถึงแม้จะไปร่วมหลับนอนกันในที่ลับฟ้องได้ทำให้ชายชู้เสียเปรียบ
กฎหมายใหม่จึงใช้คำว่าคู่สมรสแทนคำว่าสามีภรรยา ดังนั้นถ้านอกใจกันฟ้องชู้ได้เหมือนเดิมเท่าเทียมกันคือล่วงเกิน หรือแสดงตนโดยเปิดเผยว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคู่สมรสของบุคคลอื่น เท่ากับมี 2 เหตุผลในการฟ้องชู้
กฎหมายใหม่น่าจะมีผลประมาณ 120 วันหลังจากนี้"
ทนายเดชา อธิบายด้วยว่า เกี่ยวกับเรื่องนี้ สามี หรือภรรยา ยังมีสิทธิ์ฟ้องชู้เหมือนเดิม เพียงแต่ต้องเท่าเทียมกัน ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงเป็นชู้ ฟ้องชู้ได้ 2 เหตุผล หนึ่งไปมีความสัมพันธ์กันในที่ลับก็ฟ้องได้ ไปมีความสัมพันธ์กันเปิดเผยก็ฟ้องได้ ทำให้คู่สมรสมีสิทธิ์ฟ้องได้มากขึ้น.
ที่มาจาก เฟซบุ๊ก ทนายนิด้า, ทนายคลายทุกข์