- สรุปข้อมูลรับนักศึกษาใหม่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง หลักสูตร ป.ตรี (ภาคปกติ) ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ต่างกันอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าไร
- วิธีการสมัครเรียน สามารถทำได้ด้วยวิธีไหนบ้าง และถ้าจะเทียบโอนหน่วยกิต ต้องทำอย่างไร
เรียกว่าเป็นช่วงที่ Dek67 หลายคน กำลังมองหามหาวิทยาลัยที่ตอบโจทย์ในการเรียนระดับปริญญาตรี วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับหลักสูตรปริญญาตรี (ภาคปกติ) ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งเปิดการเรียนการสอน 2 ส่วน คือ ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ซึ่งผู้สนใจต้องเลือกสมัครให้ตรงตามความต้องการตั้งแต่แรก
ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ต่างกันอย่างไร
สำหรับส่วนกลางนั้น คือ การศึกษาในมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ มี 2 วิทยาเขต คือ หัวหมาก (วิทยาเขตหลัก) และบางนา ซึ่งเปิดทำการเรียนการสอน 9 คณะ มากกว่า 60 สาขาวิชา ดังนี้
- คณะนิติศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจ
- คณะเศรษฐศาสตร์
- คณะวิทยาศาสตร์
- คณะรัฐศาสตร์
- คณะศึกษาศาสตร์
- คณะสื่อสารมวลชน
- คณะมนุษยษศาสตร์
โดยสถานที่เรียนนั้น จะเป็นการบรรยายสดที่ห้องเรียน รามฯ 1 และรามฯ 2 และวิดีโอออนไลน์กลุ่มวิชาศึกษาทั่วไป และทำการสอบที่กรุงเทพฯ ม.รามคำแหง หัวหมาก (รามฯ 1) และบางนา (รามฯ 2) เท่านั้น
ขณะที่ส่วนภูมิภาค จัดตั้งศูนย์บริการนักศึกษาในจังหวัดต่างๆ เรียกว่า "สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัด…" มีทั้งสิ้น 23 แห่ง เปิดทำการเรียนการสอน 4 คณะ 4 สาขาวิชา คือ
- คณะนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์
- คณะบริหารธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการ
- คณะรัฐศาสตร์ กลุ่มวิชาการบริหารรัฐกิจ
- คณะสื่อสารมวลชน สาขาวิชานิเทศศาสตร์และสื่อดิจิทัล
...
สถานที่เรียน จะเป็นเทปบรรยายที่ห้องเรียนสาขาวิทยบริการฯ และวิดีโอออนไลน์ทุกวิชา ส่วนสถานที่สอบ จะจัดสอบที่สาขาวิทยบริการฯ และศูนย์สอบ กว่า 40 แห่งทั่วประเทศ เลือกสอบที่ไหนก็ได้ (ยกเว้นกรุงเทพฯ)
ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อสาขาวิชาที่เปิดรับสมัคร ปี 2567 คลิกที่นี่
ประเภทที่รับสมัคร
หลักสูตรปริญญาตรี (ภาคปกติ) รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า เป็นต้นไป เข้าศึกษาต่อโดยไม่ต้องสอบคัดเลือก และรับไม่จำกัดจำนวน แบ่งประเภทได้ดังนี้
- แบบไม่เทียบโอนหน่วยกิต
รับสมัครผู้สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่า เข้าศึกษาในหลักสูตรปริญญาตรี หมายความว่า ผู้ที่สำเร็จการศึกษา ม.6 สายสามัญ, กศน.ม.6, ปวช. สามารถสมัครเรียนได้ - แบบเทียบโอนหน่วยกิต แบ่งย่อยได้ดังนี้
(1) จบการศึกษาจากสถาบันอื่น
(2) โอนย้ายสถาบันการศึกษา
(3) หมดสถานภาพ นศ. จาก ม.รามคำแหง
(4) เทียบโอนหน่วยกิต 2 สถาบัน
(5) ปริญญาใบที่สองจาก ม.รามคำแหง
(6) เทียบโอนหน่วยกิตจากพรีดีกรี
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่)
ช่องทางและวันที่รับสมัคร
ผู้สนใจสมัครเรียนหลักสูตรปริญญาตรี (ภาคปกติ) ส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค สามารถเลือกสมัครเป็นนักศึกษาช่องทางใดก็ได้ ดังนี้
สมัครด้วยตนเอง
- 16-19 พฤษภาคม 2567
- 27-30 มิถุนายน 2567
หรือสมัครแบบจบในจุดเดียว รับใบเสร็จ เป็นนักศึกษารามฯ ทันที ที่ส่วนกลาง ณ อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก (รามฯ 1) กรุงเทพฯ (ไม่เปิดจุดรับสมัครที่รามฯ 2)
ส่วนภูมิภาค ที่จุดรับสมัคร ภายในสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ ม.รามคำแหง 23 แห่งทั่วประเทศ
สมัครผ่านระบบออนไลน์ : ที่ www.iregis2.ru.ac.th ตั้งแต่ 1 เมษายน - 30 มิถุนายน 2567 ดูรายละเอียดการสมัคร ที่นี่
สมัครผ่านไปรษณีย์ : ตั้งแต่ 1 เมษายน - 21 มิถุนายน 2567 ดูรายละเอียดวิธีการสมัครที่นี่
ทั้งนี้ ผู้สมัครแบบเทียบโอนหน่วยกิตต้องสมัครด้วยตนเอง หรือทางระบบออนไลน์เท่านั้น
การคัดเลือกเข้าศึกษา
สำหรับหลักสูตรปริญญาตรี (ภาคปกติ) รับสมัครนักศึกษาแบบไม่จำกัดจำนวน ไม่มีการสอบคัดเลือกเข้าศึกษา ไม่ต้องยื่นคะแนนสอบวิชาเฉพาะใดๆ ขอเพียงมีคุณสมบัติตามที่ระบุไว้ในระเบียบการรับสมัครอย่างครบถ้วนก็สมัครเรียนได้
ค่าใช้จ่ายการสมัคร
การสมัครเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี (ภาคปกติ) สามารถแบ่งค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระได้เป็น 2 ส่วน คือ 1. ค่าสมัครและลงทะเบียนเรียน และ 2. ค่าเทียบโอนหน่วยกิต
ค่าสมัครและลงทะเบียนเรียน : ต้องชำระทันทีในวันสมัคร
ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ประกอบด้วย ค่าขึ้นทะเบียนเข้าเป็นนักศึกษา, ค่าธรรมเนียมแรกเข้าศึกษา, ค่าทำบัตรประจำตัวนักศึกษา, ค่าบำรุงมหาวิทยาลัย, ค่าบริการสารสนเทศ, ค่าหน่วยกิต
- ส่วนกลาง ไม่เกิน 3,750 บาท
- ส่วนภูมิภาค ไม่เกิน 3,980 บาท
ค่าเทียบโอนหน่วยกิต (ถ้ามี) : ชำระได้ภายหลัง (หากสมัครแบบไม่เทียบโอนหน่วยกิต จะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้)
ค่าเทียบโอนหน่วยกิต คิดตามประเภทผู้สมัคร ดูรายละเอียดคลิก โดยมหาวิทยาลัย จะเรียกเก็บค่าเปิดฐานข้อมูลการเทียบโอนหน่วยกิต เป็นเงิน 100 บาทในวันที่สมัครก่อน โดยผู้สมัครไม่จำเป็นต้องชำระค่าเทียบโอนในวันสมัครก็ได้ ผู้สมัครสามารถชำระค่าเทียบโอนหน่วยกิตทั้งหมดได้โดยไม่มีค่าปรับภายใน 1 ปี นับจากวันที่สมัคร หากพ้นระยะเวลา 1 ปี จะมีค่าปรับกรณีชำระค่าเทียบโอนหน่วยกิตล่าช้า ภาคการศึกษาละ 300 บาท (ปีละ 600 บาท) โดยค่าเทียบโอนหน่วยกิตต้องชำระค่าเทียบโอนทั้งหมดภายในครั้งเดียว ไม่สามารถแบ่งชำระได้
ภาคเรียนต่อไป ต้องจ่ายเท่าไร
นักศึกษาส่วนกลาง (ภาคปกติและพรีดีกรี) ค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระในการลงทะเบียนเรียน ประกอบด้วย
1. ค่าบำรุงการศึกษา นักศึกษาภาคปกติ 800 บาท / พรีดีกรี 500 บาท
2. ค่าบริการสารสนเทศ 100 บาท
3. ค่าหน่วยกิต ภาคปกติ หน่วยละ 25 บาท / พรีดีกรี หน่วยละ 50 บาท
สรุป ภาคเรียนต่อๆ ไป จะมีค่าใช้จ่าย 1,125-1,450 บาท สำหรับภาคปกติ และค่าใช้จ่าย 1,050-1,700 บาท สำหรับพรีดีกรี ถ้าลงทะเบียนเรียนหลายวิชา ก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
นักศึกษาส่วนภูมิภาค (ภาคปกติและพรีดีกรี) ค่าใช้จ่ายที่จะต้องชำระในการลงทะเบียนเรียน ประกอบด้วย
1. ค่าบำรุงการศึกษา 600 บาท / พรีดีกรี 300 บาท
2. ค่าบริการสารสนเทศ 100 บาท
3. ค่าหน่วยกิต หน่วยละ 50 บาท ทั้งภาคปกติและพรีดีกรี
4. ค่าธรรมเนียมการสอบ วิชาละ 60 บาท
สรุป ภาคเรียนต่อๆ ไป จะมีค่าใชัจ่าย 1,330-2,700 บาท สำหรับภาคปกติ และค่าใช้จ่าย 1,030-2,320 บาท สำหรับพรีดีกรี ถ้าลงทะเบียนเรียนหลายวิชา ก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตามไปด้วย
รู้แบบนี้แล้ว ใครสนใจที่จะศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก็อย่าลืมเตรียมความพร้อมและศึกษารายละเอียดต่างๆ ก่อนไปสมัครเรียน
อ้างอิงจาก รอบรั้วรามฯ, PR Ramkhamhaeng University