สะเทือนวงการผ้าเหลือง พระสงฆ์สอนฟอกจิต-แม่ชีห่มเขียว ขณะที่พระอาจารย์แจงสอนตามหลักพระธรรม
วันที่ 14 เมษายน 2567 มีรายงานว่า จากกรณีทวิตเตอร์ (X) @RedSkullxxx ได้โพสต์คลิปและข้อความระบุว่า "เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นแบบนี้เหมือนกัน ศาสนาพุทธเรามันมีแบบนี้จริงด้วยเหรอ ฝากนักข่าวถามหลวงพ่อพยอมหรือแพรรี่ให้หน่อย เค้าบอกเป็นการภาวนาฟอกจิตว่างั้น ว่ามันแปลกๆ ชาวพุทธมีวิธีการทำให้จิตผ่องใสมันต้องอยู่ในสมาธิกำหนดลมหายใจเข้าออกไม่ใช่เหรอวะ ที่เรียนมาหรือนี่เป็นหลักสูตรชั้นสูงกูศึกษาไม่ถึง" #ฟอกจิต #นั่งสมาธิ #ปฏิบัติธรรม #พระพยอม #แพรี่ไพรวัลย์ #สำนักพุทธ
และอีกโพสต์ ได้ลงภาพนิ่งและระบุข้อความว่า "แอดมินฝากลงหน่อย สงสัยว่าปกติพระมีสอนฟอกจิตสวดแบบนี้แล้วหรอคะ ที่บ้านเลื่อมใสที่นี่มาก สวดตามทุกวัน เห็นแม่กลับมาท่องอะไรแปลกๆ เลยเข้าไปดูตกใจมากค่ะ ตอนเเรกไม่คิดว่าพระนำสวดเอง ชวนไปวัดปกติไม่ไป เขาไปแต่แบบพวกนี้ แต่ว่างงว่ามีเทพศาสนาพราหมณ์ด้วย เห็นมีท่องโอมอะไรไม่รู้เลยงงจะพุทธหรือจะอะไร เขาบอกพุทธจะรวมกับพราหมณ์อีก งงไปใหญ่" #เรื่องเล่าจากDM

...
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโนนไร่ หมู่ที่ 9 ต.ชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ พบว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมชื่อมหาวิชชาลัยธรรมิกราช โดยได้ขอตั้งเป็นมูลนิธิมหาวิชชาลัยธรรมิกราชมา 3 ปี และมีผู้เดินทางมาปฏิบัติธรรมอยู่ ประมาณเกือบ 50 คน บรรยากาศโดยรอบมีบรรดาลูกศิษย์จากต่างจังหวัดเดินทางมาปฏิบัติธรรม พร้อมกันนี้ยังมีลูกศิษย์ได้โอนปัจจัยมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก
จากการสอบถาม นายปรีชา อายุ 60 ปี ลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรม ได้เล่าว่า ตนมาจาก จ.จันทบุรี มาปฏิบัติธรรมที่นี่ตั้งแต่ปี 2564 เป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว รู้สึกว่าเมื่อมาปฏิบัติธรรมที่นี่แล้วมีความสบายใจ ไม่มีความทุกข์ โดยตนนั้นมาตามน้องสาวที่มาบวชชีที่นี่ ส่วนตัวอยากมาต่อยอดพุทธศาสนาที่เคยรู้ให้มากขึ้น มันเป็นสิ่งเหลือเชื่อ ปฏิบัติเบื้องต้นได้ 7 วัน ก็เหมือนจะหลุดพ้นจากความทุกข์แล้วทุกด้าน ทำให้ลดกิเลสได้ ตอนนี้ก็ไม่เอาอะไรแล้ว ตั้งใจจะโกนหัวบวชต่อไป

การฟอกจิตคือ การทำจิตใจให้บริสุทธิ์ให้กิเลสนั้นเบาบางน้อยลงจนไม่เหลือเพื่อจะพ้นทุกข์ได้ เริ่มต้นด้วยการสวดมนต์ไหว้พระก่อนสุดท้ายก็อธิษฐานจิตว่าเราต้องการสวดฟอกเพื่ออะไร โดยตนสวดตามในคลิปของหลวงแม่ชี ส่วนลูกศิษย์ที่มามานั้นก็เริ่มรู้และมาปฏิบัติธรรมมากขึ้น และมีคนปฏิบัติสำเร็จแล้วเป็นพระอรหันต์ขั้นสูงสุด 6 คน เป็นแม่ชีที่ใส่ชุดสีเขียวทอง
นายสุดใจ พิมพ์ศักดิ์ อายุ 61 ปี ชาวบ้านในละแวก เล่าว่า พระที่สำนักสงฆ์นี้ออกบิณฑบาตทุกเช้า ไม่เว้นแม้แต่วันพระ วันไหนมีอาหารมาก พระท่านก็จะแจกให้ชาวบ้าน โดยพระกับแม่ชีที่นี่ก็ปกติเหมือนวัดอื่นๆ ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้คนในชุมชน มีงานก็ต่างช่วยเหลือชาวบ้าน โดยชาวบ้านต่างก็ให้ความเคารพและศรัทธา ไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับชาวบ้าน

จากการสอบถาม พระอาจารย์มานิตย์ ธนปัญโญ (อาจารย์ผู้สอน และเป็นที่ปรึกษา) อายุ 52 ปี ทราบว่า มหาวิชชาลัยธรรมิกราช แห่งนี้เป็นพื้นที่ 9 ไร่ ซึ่งโยมแม่ได้มอบให้กับมหาวิชชาลัยธรรมิกราชเพื่อใช้เป็นสถาบันการเรียนรู้เพื่อมุ่งสู่ความพ้นทุกข์ ด้วยหนทางแห่งอริยมรรค ขององค์พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีหลักสูตรที่ค้นหาตัวตน โดยได้รับการปรับปรุงและพัฒนามาเกือบ 60 ปี และพุทธธรรมกึ่งพุทธกาล ที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ให้พระพุทธเจ้าน้อย สื่อพระธรรมลงมาสู่โลก

โดยพระเจ้าน้อยคือสิ่งที่เกิดจากเส้นผมของพระพุทธเจ้า แล้วตกผลึกมาเป็นดวงจิตของ พระพุทธเจ้าน้อย ซึ่งจะมีหลวงแม่ชีกชพร นาคหงษ์ฤดี เป็นสื่อกลางนำมาเผยแพร่สู่โลกมนุษย์ โดยการนำสวดฟอกจิต ในกึ่งศาสนาจำนวนหลายพันตอน ที่เป็นคำสอนเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน ให้กับนักศึกษาและนักปฏิบัติ ได้ศึกษาเรียนรู้ให้สำเร็จในธรรม 4 ระดับ คือระดับอริยบุคคลขั้นที่ 1 พระโสดาบัน, ระดับอริยบุคคลขั้นที่ 2 พระสกิทาคามี, ระดับพระอริยบุคคลขั้นที่ 3 พระอนาคามี และพระอริยบุคคลขั้นที่ 4 พระอรหันต์ ซึ่งใช้เวลาในศึกษาไม่นาน อาจจะ 1-2 ปี 2-4 ปี 4-6 ปี หรือช้าสุดไม่เกิน 7 ปี สามารถสำเร็จได้ทุกคน ถ้ามีความตั้งใจ
ในของส่วนมูลนิธิมหาวิชชาลัยธรรมิกราชได้จัดตั้งมา 3 ปี และเป็นองค์กรดำเนินการในส่วนของงบประมาณ ในการศึกษาและเผยแผ่ธรรม โดยได้รับปัจจัยค้ำหนุนจากการบริจาคจากผู้ที่ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ หรือรับฟังธรรมคำสอนจากสื่อออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมกันนี้ทางมหาวิชชาลัยธรรมิกราช ได้ผลิตอริยบุคคล สำเร็จผลถึงสี่ระดับแล้ว จึงถึงเวลาที่จะประกาศธรรมกึ่งพุทธกาล และหลักสูตรค้นหาตัวตน ให้กว้างขวางออกไป และขยับขยายสถานที่ให้กว้างขวางขึ้น ให้ผู้ที่ปรารถนาความพ้นทุกข์ ได้มาศึกษาจำนวนมากขึ้น เพื่อความเจริญรุ่งเรืองศิวิไลซ์ของพระพุทธศาสนาและโลกจักรวาล ตามยุคตามสมัยที่มาถึง ซึ่งความสำเร็จแห่งการศึกษาปฏิบัติ จะทำให้มีพระอรหันต์เกิดขึ้นมากมาย มากกว่าในสมัยพุทธกาล จึงเป็นข่าวดีสำหรับผู้มีบุญบารมี ที่ต้องการแสวงหาหนทางความพ้นทุกข์ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้

และผู้ที่ปรารถนามาค้ำหนุนการเผยแผ่ธรรมในกึ่งพุทธกาล เพื่อสั่งสมบารมีให้เติมเต็มสำหรับบารมีโพธิสัตว์ หรือบำเพ็ญบารมีเข้าสู่ความหลุดพ้นเป็นองค์พระอรหันต์ในชาติปัจจุบัน หรืออนาคตกาลอันใกล้นี้ ได้รับโอกาสอันดีนี้ทุกคนเทอญ
ส่วนของแม่ชีที่ห่มชุดสีเขียว คล้ายพระสงฆ์ หมายถึงเป็นเครื่องแสดงถึงการปฏิบัติตามพุทธกาล คล้ายภิกษุณี แต่เนื่องจากปัจจุบันที่เมืองไทยบวชเป็นภิกษุณีไม่เป็นที่ยอมรับ จึงห่มผ้าเป็นเชิงสัญลักษณ์ ส่วนแม่ชีโกนหัวห่มขาวก็มี แล้วแต่จะศรัทธาของแต่ละคน ปัจจุบันมีลูกศิษย์อยู่หลายประเทศ โดยพุทธองค์จะค่อยๆ เปิดให้เข้ามาโดยการคัดสรรของพระองค์เอง และที่สอนปฏิบัติธรรมอยู่นี้ก็เป็นหลักคำสอนของพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ลัทธิใดๆเป็นของพระพุทธองค์โดยแท้ จึงอยากให้ท่านใดที่ยังคงเคลือบแคลงสงสัยลองมาปฏิบัติธรรมดูภายใน 7 วัน จะรู้ถึงความเปลี่ยนแปลง

ทางด้านนายพศุฒม์ ขอดเมชัย ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ทางมหาวิชชาลัยธรรมิกราช นั้นได้จดทะเบียนถูกต้อง แต่ส่วนของมูลนิธิมหาวิชชาลัยธรรมิกราชนั้น ขึ้นตรงกับกระทรวงมหาดไทย ก็ต้องตรวจสอบกันเองไม่เกี่ยวกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุรินทร์ ในส่วนของพระอาจารย์มานิตย์ ธนปัญโญ (อาจารย์ผู้สอน และเป็นที่ปรึกษา) นั้น ตรวจสอบแล้วว่าเป็นพระจริงถูกต้อง และยังไม่ได้มีเรื่องทำให้เสื่อมเสียใดๆ แต่อาจมีแนวทางปฏิบัติที่แตกต่างออกไป จึงทำให้บางคนเกิดความสงสัย และมองว่าไม่ถูกต้อง ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน โดยยังไม่มองเป็นการหลอกลวงเพราะยังไม่มีผู้ใดได้รับความเสียหาย