"แคดเมียม" ธาตุที่กำจัดไม่ได้ อาจารย์ภาคเหมืองแร่ วิศวฯ จุฬาฯ แนะวิธีการจัดการ คาดมาจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่

วันที่ 5 เม.ย. 2567 จากกรณีพบสารแคดเมียมกว่า 15,000 ตัน ถูกซุกไว้ในโรงงานแห่งหนึ่ง ใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งต่อมา พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งตรวจสอบสารปนเปื้อน เบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมในบริเวณดังกล่าว และกากแคดเมียมและกากสังกะสี ซึ่งผสมด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ 30 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันอยู่ในสถานะแข็งตัวและเสถียร หากเก็บไว้ในสถานที่มิดชิดและไม่มีการชำระล้าง จะยังไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ อาจารย์ ดร.ธีระยุทธ เพ็งสะอาด รองหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเหมืองแร่และปิโตรเลียม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่า แคดเมียม (Cadmium) เป็นธาตุโลหะหนักที่มีอยู่ตามธรรมชาติ มีสูตรทางเคมีคือ Cd โดยปัจจุบันมนุษย์นำมาใช้ประโยชน์หลักๆ ได้แก่ การใช้เป็นโลหะผสมรวมถึงเคลือบผิวโลหะชนิดอื่น เพื่อเพิ่มคุณสมบัติทั้งทางกายภาพและทางเคมี และการใช้ผลิตขั้วแบตเตอรี่ชนิดที่เติมประจุใหม่ได้ เป็นต้น

ซึ่งแคดเมียมที่พบอยู่ในโรงงานของจังหวัดสมุทรสาครนั้น ดร.ธีระยุทธ ระบุว่า น่าจะมาจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ซึ่งคาดว่าเป็นเหมืองแร่สังกะสีในจังหวัดตากที่มีการนำเอาแร่สังกะสีขึ้นมาเพื่อใช้ประโยชน์ แต่การนำแร่สังกะสีขึ้นมานั้นมีแคดเมียมติดมาด้วย แต่เนื่องจากว่าการทำอุตสาหกรรมเมืองแร่สังกะสีในเวลานั้นอาจไม่มีความต้องการใช้แคดเมียม จึงทำให้เหลือหางแร่แคดเมียมทิ้งเป็นของเสียจำนวนมาก นำมาสู่การส่งต่อของเสียเหล่านี้ให้กับอุตสาหกรรมอื่น เช่นเดียวกันกับโรงงานที่ตรวจพบในจังหวัดสมุทรสาคร แม้ว่าแคดเมียมจะเป็นธาตุที่ สามารถพบเจอได้ทั่วไปในธรรมชาติ แต่ตามปกติจะมีค่าที่ต่ำ

อันตรายของแคดเมียมจะรุนแรงมากเมื่อมีความเข้มข้นหรือปริมาณที่สูง เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดโทษอย่างรุนแรงต่อร่างกาย เช่น มีพิษต่อตับและไต ทำให้กระดูกคดงอ และมีอาการปวดที่กระดูก และหากสูดดม จะมีผลโดยตรงต่อปอดและระบบทางเดินหายใจ

...

ส่วนวิธีการจัดการกับแคดเมียมที่ตรวจพบอยู่ในโรงงานขณะนี้ ดร.ธีระยุทธ แนะนำว่า ต้องลดการกระจายของแคดเมียมอยู่ในที่ที่ไม่มีน้ำ และอากาศนิ่ง คือไม่มีลมแรงที่จะทำให้เกิดการฟุ้งกระจาย หากจะทำการขนย้าย ต้องทำการขนย้ายให้มิดชิด ไม่ให้เกิดการฟุ้งกระจาย และด้วยความที่แคดเมียมเป็นธาตุที่ไม่สามารถกำจัดได้ จึงมีแนวทางในการจัดการอยู่สองแบบคือ

แบบที่ 1 ขนย้ายอย่างมิดชิดกลับไปเก็บในบ่อทิ้งแร่ที่เหมืองแร่ที่เป็นที่มา ทำการฝังกลบที่ถูกควบคุมมาตรฐานการกระจายทั้งทางน้ำและทางอากาศ เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียทางด้านสุขภาพต่อประชาชน รวมถึงสิ่งแวดล้อม

แบบที่ 2 นำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม เพื่อการผลิตเป็นโลหะอย่างถูกวิธี เนื่องจากของเสียเหล่านี้ประกอบด้วยธาตุโลหะหลายชนิด เช่น สังกะสี ตะกั่ว ทองแดง รวมถึงแคดเมียม ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ หากมีการควบคุมในการขนย้ายและจัดการ รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสม โดยการจัดการเหล่านี้ควรดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม และถูกต้องตามกฎหมาย.

(ติดตามข่าวโซเชียล ในกระแส ทั้งหมดที่นี่)