หนุ่ม เผยเรื่องสะเทือนใจ วัยรุ่นคลั่งยาเสพติดถือมีดเข้ามาฟันแม่ในบ้าน เจ็บสาหัส แผลลึกเกือบถึงกะโหลก นิ้วก้อยขาด ด้านผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาจริง
วันที่ 4 เมษายน 2567 มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวสะเทือนใจ หลังมีวัยรุ่นคลั่งยาเสพติดถือมีดเข้ามาทำร้ายแม่ถึงในบ้านจนได้รับบาดเจ็บ
โดยระบุว่า "ภัยจากยาเสพติด ขอให้สังคมเป็นพยาน ถ้าโดนกับมารดาอันเป็นที่รักคุณล่ะ ในวันที่ 2 เมษายน 2567 ในเวลา 06.40 น. ตามที่ผมได้รับแจ้งข่าวจากพี่ชายผม ความว่า แม่โดนฟันในบ้านของแม่ (ในบ้านของแม่เอง) และแม่ผมอายุ 63 ปี น่าจะเป็นผู้สูงอายุแล้วนะครับ คนร้ายที่ฟันคือเด็กที่ติดยาบ้านห่างออกไป 80 เมตร ซึ่งเราก็เห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่เท้าเท่าฝาหอย และเหตุการณ์นี้เป็นเหตุการ์ณครั้งที่ 2 ที่บุกรุกมาทำร้ายและคิดไตร่ตรองไว้ก่อนในการจะเอาชีวิตแม่ผม
ครั้งนี้ถือว่าแม่ผมได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสเสียนิ้วก้อยข้างซ้ายไป โดนฟันที่หัวเกือบถึงกะโหลก และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในภายหน้า ผมขอความอนุเคราะห์ความรู้และข้อมาตรการจากผู้มีความรู้และสังคมด้วยครับ ….จากผู้หาเช้ากินค่ำ"
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป พบว่ามีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ได้ส่งกำลังใจขอให้คุณแม่เจ้าของโพสต์ปลอดภัย
จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.บ้านปิน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดเข้าตรวจสอบ พบว่าในที่เกิดเหตุพบรอยเลือดกระจัดกระจายเต็มพื้นถนนหน้าบ้านและบริเวณลานในบ้าน หน้าบ้าน ส่วนผู้บาดเจ็บเพื่อนบ้านได้นำส่งโรงพยาบาลดอกคำใต้ ทราบชื่อ นางมอญ เผ่าเรือน อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บถูกมีดฟันเข้าบริเวณนิ้วก้อยขาด 2 ข้อ และศีรษะ 2 แผลลึกเลือดไหล กระจายเต็มพื้น
...
และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการติดตามจับกุม นายนพเก้า อายุ 26 ปี ผู้ก่อเหตุขณะอยู่ในบ้าน ห่างบ้านที่เกิดเหตุ 50 เมตร และได้นำตัวมาชี้จุดที่เกิดเหตุ และพาไปดูมีดยาว 23 นิ้ว ที่ใช้ก่อเหตุยังจุดที่ทิ้งข้างรั้วในหมู่บ้าน
หลังจากทำการจับกุมได้นำตัวพร้อมด้วยของกลาง มาทำการสอบปากคำ โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายร่างกายนางมอญในบ้านจริง สาเหตุเนื่องจากผู้เสียหายเคยดำเนินคดีกับผู้ต้องหามาหลายครั้ง
และจากการสอบถามผู้ต้องหาว่าเอาอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุครั้งนี้ไปไว้ที่ไหน ผู้ต้องหาก็ได้บอกว่าเอาไปทิ้งข้างทางในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ให้ผู้ต้องหานำไปที่จุดทิ้งอาวุธมีด เมื่อไปถึงพบอาวุธมีดยาวประมาณ 23 นิ้วพร้อมด้าม และมีเลือดและเส้นผมติดอยู่ที่มีด ตกอยู่ข้างกำแพงในหมู่บ้าน จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง แล้วจึงควบคุมและจับกุมผู้ต้องหาและแจ้งข้อกล่าวหา พยายามฆ่าผู้อื่นและพาอาวุธติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร บุกรุกเคหสถานโดยใช้กำลังประทุษร้ายและมีอาวุธมีด ให้ผู้ต้องหาทราบ และรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา
จากการสังเกตของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม พบว่าผู้ต้องหามีอาการมึนเมา คล้ายคนเสพยาบ้ามา จึงได้สอบถามผู้ต้องหาว่าเสพยาบ้ามาหรือไม่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเสพยาบ้ามาจริง เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2567 เวลา 17.00 น. จำนวน 2 เม็ด โดยชื้อมาจากชายชาวเขาไม่ทราบชื่อ ในราคาเม็ดละ 30 บาท เป็นเงิน 60 บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงขอตรวจปัสสาวะเบื้องต้น ผลการตรวจเบื้องต้นให้ผล "บวก" จึงพาตัวผู้ต้องหามาที่ สภ.ดอกคำใต้ และเก็บตัวอย่างปัสสาวะของผู้ต้องหานำส่งให้โรงพยาบาลดอกคำใต้ ตรวจยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ผลการตรวจจากโรงพยาบาลดอกคำใต้ ลงวันที่ 2 เมษายน 2567 ยืนยันว่า พบสารเสพติดชนิด "เมทแอมเฟตามีน" ในปัสสาวะของผู้ต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิมเติมว่า เสพยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
จากการสอบถามทางญาติผู้ต้องหา ยอมรับว่า คนในบ้านเป็นคู่อริกับบ้านที่เกิดเหตุจริง และเคยมีเรื่องทะเลาะโกรธเคืองกันมานาน จนมีเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกัน.