ค่าฝุ่น PM 2.5 โคราชทะยานต่อเนื่อง กระทบต่อสุขภาพ เหตุอากาศร้อนจัด อุณหภูมิสูงแตะ 40 องศา ขณะที่ควบคุมโรคเตือนทำงานโล่งแจ้ง ระวัง ฮีตสโตรก

วันที่ 3 เมษายน 2567 มีรายงานว่า ที่จังหวัดนครราชสีมา มีอากาศร้อนจัดตั้งแต่ช่วงเช้า โดยกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศประจำวันว่า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างและภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง 

โดยศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้คาดการณ์ว่า จังหวัดนครราชสีมา จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยพุ่งสูงถึง 40 องศาเซลเซียส อากาศจะร้อนจัดและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงบางแห่ง 

ลักษณะอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งดังกล่าว ส่งผลให้ค่าฝุ่นมลพิษในอากาศพุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานต่อเนื่องหลายวันแล้ว โดยวันนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 นครราชสีมา ได้รายงานคุณภาพอากาศจากการตรวจวัดผ่านแอปพลิเคชัน Air4Thai ที่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 อยู่ที่ 46.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดให้ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง จะต้องไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

...

ในขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ AQI ที่เป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในภาพรวมที่ประกอบด้วยมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ก็พุ่งสูงเช่นกัน โดยตรวจวัดได้ 125 AQI อยู่ในระดับสีส้ม มีผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ฝุ่นมลพิษในอากาศพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดและแห้งแล้งแล้ว การลักลอบเผาซากพืชผลทางการเกษตร เผาป่า เผาขยะในที่โล่งแจ้ง ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ปริมาณฝุ่นมลพิษเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  

โดยวานนี้ (2 เมษายน 2567) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA ได้รายงานข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS พบจุดความร้อนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 32 จุด โดยตรวจพบในพื้นที่การเกษตรมากถึง 16 จุด รองลงมาคือ เขต สปก. 10 จุด, ป่าสงวนฯ 2 จุด, พื้นที่อื่นๆ 2 จุด, ป่าอนุรักษ์ 1 จุด และริมทางหลวง 1 จุด  ซึ่งทำให้ปริมาณฝุ่นมลพิษในอากาศพุ่งสูงต่อเนื่อง และหากยังมีการลักลอบเผา หรือเกิดไฟไหม้ป่าหรือพื้นที่การเกษตรอยู่อย่างนี้ คาดว่าปริมาณฝุ่นมลพิษจะสูงต่อเนื่องมากขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพของตนเองด้วย ควรสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่นเมื่อออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด ควรหลีกเลี่ยงการทำงาน หรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานด้วย เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอาการฮีตสโตรกเป็นลมแดด ซึ่งเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงกลางวัน อาจทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถปรับตัว หรือควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ หรือที่เรียกกันว่า เป็นโรคลมแดด หรือโรคฮีตสโตรก 

โดยร่างกายจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเกิน 40 องศาเซลเซียส ตัวจะร้อน หน้ามืด เพ้อ กระสับกระส่าย หายใจเร็ว มึนงง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชักเกร็ง ช็อก จนถึงขั้นหมดสติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เสียชีวิตได้.