ครูท้อใจ เด็กนักเรียนติด ร.-มส. หลายวิชา ถือกระดาษแผ่นเดียวพร้อมงาน 1 ชิ้น มาขอจบ พร้อมเผยเหตุผลที่ไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ ชี้ ระบบซ้ำชั้นไม่ได้เลวร้าย ไม่ทำลายอนาคตเด็ก

วันที่ 21 มีนาคม 2567 มีรายงานว่า โลกออนไลน์ได้ให้ความสนใจเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊ก TheBoom Kumpol ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้เผยผลการที่มีการติด มส. และ ร. หลายวิชา โดยระบุข้อความว่า "ตัวอย่างของการไม่รับผิดชอบตัวเอง พอเห็นเพื่อนจบ ก็ถือกระดาษแผ่นเดียวมาขอลายเซ็น พร้อมงาน 1 ชิ้นเพื่อขอจบ และการให้ผู้ปกครองมาคุย มาขอ หยุดซะ เอากลับมาได้ไหม ระบบซ้ำชั้น

ที่เห็น ร. ไม่ใช่ว่าค้างงานนะ เพราะเราให้ 0 ไป คนเบื้องบนก็เรียกเข้าห้องเย็น แล้วก็มีปัญหาตามมา เช่นว่า ได้ออกไปตามเด็กมาเรียนไหม ได้ติดตามบ้างไหม พิจารณาตัวเองหรือยังว่าทำไมเด็กไม่อยากเรียนกับครูคนนี้ ฯลฯ

ข่อยเมือยกับเด็กน้อยยุคนี้

ป.ล. นี่คือของนักเรียนคนเดียว

ป.ล.2 ที่เจอมากกว่านี้คือ 52 วิชา"

จากการสอบถามเรื่องนี้กับ ครูเจ้าของโพสต์ เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า นักเรียนคนที่ติด 52 รายวิชานั้น จบไม่ทัน เนื่องจากว่ากระบวนการแก้มีเวลา เพื่อที่จะสั่งจบ และเขาไม่ทันแน่นอน และตอนนี้กระบวนการสั่งจบได้เสร็จสิ้นไปแล้ว และอีกหนึ่งสาเหตุที่เขาไม่สามารถจบได้ทันคือ ครูหลายๆ ท่าน (รวมทั้งผม) ไม่สามารถให้แก้ได้ เพราะไม่เป็นธรรมกับเพื่อนๆ ที่เรียนมาตลอดระยะเวลา 3 ปี

สำหรับปัญหาที่ทำให้ติด ร., มส. นั้น ในส่วนของ มส. เพราะเขาไม่เข้าเรียนเลยครับ ส่วน ร. คือค้างงาน (แต่ต้องขออนุญาตแจ้งตามจริงว่า ครูไม่ให้ 0 เพราะว่า เกรด 0 จะมีผลต่อการคำนวณผลสัมฤทธิ์ และครูจะโดนตำหนิว่าผลสัมฤทธิ์ของรายวิชาต่ำ นั่นก็จะทำให้ครูถูกกดดันให้แก้เกรดอีก เลยให้ ร. (เพราะไม่ต้องนำมาคำนวณผลสัมฤทธิ์ครับ) ส่วน 0 นั่นเพราะ ครูเข้าใจว่าเขาไม่มีตัวตนในโรงเรียน คือ หยุดเรียนไปแล้ว แต่ไม่ทำเรื่องลาออก (เพราะว่าเขาไม่มาโรงเรียนเลยครับ)

...

เมื่อถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับการให้เด็กซ้ำชั้น ทางครูเจ้าของโพสต์ เปิดเผยว่า มันเป็นสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้นักเรียนรับผิดชอบสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เขาจะรู้ว่าเขาต้องเข้าเรียน ต้องมาเรียน ต้องส่งงาน และในที่สุดเขาจะรู้หน้าที่ตัวเอง 

ระบบซ้ำชั้น ผมว่ามันไม่ได้เลวร้าย ไม่ได้รั้งเด็ก ไม่ได้ทำลายอนาคตเด็ก ถ้าเด็กเขารู้หน้าที่ ทำหน้าที่ไปตามระบบที่ตั้งไว้เขาก็สามารถเลื่อนชั้นไปได้ และในที่สุดก็จบการศึกษาออกไปเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ.

ผมอยากให้นักเรียนรู้หน้าที่ ควบคู่ไปกับรู้สิทธิ์ของตน อยากเห็นนักเรียนเป็นคนที่มีความรู้ คู่คุณธรรม และอยากให้ผู้บริหารระดับสูงฟังเสียงของครูผู้ปฏิบัติงานครับ.

(อ่าน "ข่าวโซเชียล" ทั้งหมดที่นี่)