ผู้บริหารด้านความยั่งยืน กทม. เปิด 3 สาเหตุ "กลิ่นไหม้" ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ ทำค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูง ล่าสุดกลิ่นยังคงอยู่ ทำแฮชแท็ก #กลิ่นไหม้ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X)
จากกรณีเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 2567 ที่ผ่านมา พบว่าในหลายพื้นที่ของ กทม. และบางพื้นที่ของ จ.นนทบุรี มีคนได้กลิ่นควันรุนแรง แต่ก็ไม่ทราบที่มา ด้านเว็บไซต์ iqair.com รายงานสภาพอากาศพบว่า ในคืนนี้พบค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง และจากการจัดอันดับคุณภาพอากาศของเมืองสำคัญทั่วโลก เมื่อเวลา 23.00 น. พบว่า อันดับที่ 1 คือ พนมเปญ, กัมพูชา วัดได้ 174 AQI US ส่วนกรุงเทพฯ อยู่อันดับ 7 วัดได้ 151 AQI US ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น (กรุงเทพฯ จมฝุ่น พุ่งติดอันดับ 7 โลก บางคนได้กลิ่นควันไม่รู้ที่มา)
ต่อมา ทวิตเตอร์ (X) เพื่อนชัชชาติ ก็ได้โพสต์ข้อความถึงสาเหตุ "กลิ่นไหม้" โดยระบุว่า พรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯ และผู้บริหารด้านความยั่งยืน กทม. ได้ชี้แจงถึง 3 สาเหตุกลิ่นไหม้ ดังนี้
1. ทิศทางลมวันที่ 20 เป็นทิศตะวันออก (ตามภาพ) ซึ่งต่างจากวันอื่นๆ ช่วงนี้ที่มาจากอ่าวไทย ส่วนจุดเผาในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมาพบที่ปริมณฑลหลายจุด
2. ระยะนี้สภาพอากาศแปรปรวน มีพายุฤดูร้อน ประกอบกับมีความกดอากาศสูงผ่านทางอีสานมาเมื่อวาน ส่งผลให้ความสูงของชั้นบรรยากาศผสม (Mixing Height) ลดต่ำลง ฝุ่นละอองเกิดการสะสมตัวเพิ่มมากขึ้น
...
3. ความชื้นในบรรยากาศทำให้เกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ทุติยภูมิ (Secondary PM 2.5) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะชนิดที่เกิดจากพวกสารประกอบไนโตรเจนและแอมโมเนียจะเกิดปฏิกิริยาได้ดีในสภาวะที่มีความชื้นสูง
ล่าสุด เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายพื้นที่ใน กทม. ยังคงมีคนได้กลิ่นไหม้ ทำให้มีคนพูดถึงประเด็นดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้แฮชแท็ก #กลิ่นไหม้ ยังคงพุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ (X).
ขอบคุณทวิตเตอร์ (X) เพื่อนชัชชาติ