สาวผมร่วงคนดัง ลั่นความจริงมันก็คือความจริง ล่าสุดได้ต่อผมใหม่แล้ว เผยสิ่งที่พูดไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พร้อมขอบคุณทุกกำลังใจ

วันที่ 17 มี.ค. 67 จากกรณีสาวโพสต์โซเชียล ไปต่อผมที่ร้านแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ นนทบุรี เสียเงินไป 5,000 บาทค่าต่อผม ผ่านมาไม่ถึง 5 วัน ผมที่ต่อไปร่วง ไปแก้แล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม จนเกิดเป็นประเด็นวิวาทะกันระหว่างเจ้าของร้านและลูกค้า จนต้องไปออกรายการดัง เพื่อพูดคุยชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น (อ่านข่าว : ร้านทำผมโพสต์ หลังออกรายการดัง ปมสาวต่อผม 5 วันแล้วร่วง)

โดยล่าสุด มีรายงานว่า โลกออนไลน์ได้แชร์โพสต์ของสาวรายดังกล่าว ที่ระบุข้อความว่า โพสต์นี้ขอให้เป็นโพสต์สุดท้ายก่อนจะเริ่มใหม่ ขอบคุณทุกๆ คนมากๆ นะคะ ความจริงมันก็คือความจริง

หนูกับแฟนมันคนบ้านๆ ไม่สามารถพูดอะไรได้ให้สวยหรูแต่สิ่งที่หนูพูดไปกับผลงานของเค้ามันคือความจริง หนูผิดเองที่โวยวาย ผิดเองที่ไปถ่ายคลิป เป็นคนแบบนี้แต่จริงใจ ผิดว่าไปตามผิด สิ่งที่พูดไปเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ปั้นหน้าตาใสใส่ทำไม่เป็น อยู่บ้านเป็นแบบไหน อยู่ที่ไหนก็เป็นแบบนั้น 

แต่ความจริงนั้นมันไม่มีคำว่าตรงกลาง วันนี้มันทำอะไรให้หนูรู้อะไรหลายอย่างมากๆ ว่าคนที่ซื่อสัตย์และมีแต่ใจ มันใช้อะไรกับคนส่วนมากไม่ได้เลย สิ่งที่ร้องไห้แล้วเสียน้ำตาให้นะคะตอนนี้ คือคนที่ทักมาให้กำลังใจมีทั้งคนรู้จักและไม่รู้จัก และคนที่โพสต์เข้าใจเราแต่ไม่ได้ทัก พอมันเห็น มันก็ชื่นใจมากๆ เลย

ต่อจากนี้ไปจะไม่ขอโพสต์หรืออะไรอีกเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก จะเริ่มใหม่กับตัวเอง บทเรียนครั้งนี้มันใหญ่มากจริงๆ สอนอะไรหลายๆ อย่างให้โตขึ้น จะไม่สนใจหรือให้ค่าคำพวกนั้น จะตั้งใจทำงานเปิดร้านขายของทุกวันเหมือนเดิม เดินหน้าไปข้างหน้า หนูมีลูกอีก 2 คนที่ต้องดูแล หนูเข้มแข็งมากๆ หนูโอเคนะคะ โอเคจริงๆ

...

หนูขอบคุณที่มีช่างต่อผมหลายท่านที่ทักมาแก้งานให้ ขอบคุณที่เข้าใจและเอ็นดูตรงนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ และอยากจะขอบคุณทุกคนที่เข้าใจและคนที่ยื่นมือมาช่วย ขอบคุณจริงๆ บุญคุณครั้งนี้จะไม่ลืมเลย เข้าใจทุกๆ อย่าง ขอบคุณจริงๆ ค่ะ

ตอนนี้ผมสวยแล้ว ยิ้มได้แล้ว กำลังใจล้นหลามมาก งานสวยงานเนี้ยบ ครั้งต่อไปอย่านอกใจเค้าอีก ผมสวยด้วยงานเนี้ยบ ด้วยราคาไม่ต้องพูดถึงงานนี้ฟรีค่ะ #ผู้ใหญ่ที่น่ารักไม่ขอออกนาม #งานเคราติน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นให้กำลังใจเจ้าของโพสต์ พร้อมกับแชร์ออกไปจำนวนมาก.

(อ่าน "ข่าวโซเชียล" ทั้งหมดที่นี่)