เจ้าของใจสลาย สุนัข 14 ตัวที่เลี้ยงไว้ ถูกวางยาเบื่อ ช่วยได้ทันเพียง 2 ชีวิต บอกไม่อยากปรักปรำใคร แต่สงสัยว่าทำไม ไม่มาพูดกันดีๆ

วันที่ 10 มีนาคม 2567 จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT ได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า #วางยาเบื่อหมาอย่างโหดเหี้ยมดิ้นทุรนทุรายสิ้นใจทรมาน 12 ชีวิตรอด 2 ชีวิต สภ.นิคมพัฒนา จังหวัดระยอง

เจ้าของไร่มันสุดโหดไร้เมตตา ป้องกันหมาเข้าไร่มัน ด้วยการวางยาเบื่อน้องหมาให้ตายอย่างทรมานอย่างโหดเหี้ยม ถึง 14 ชีวิต รอด 2 ชีวิต เจ้าของสุดเสียใจ ช่วยได้ สองชีวิต ในขณะที่เพื่อนบ้านละแวกนั้นอีกสองหลังก็โดนไปด้วย

วอน…ทุกครั้งที่ต้นมันสำปะหลังล้มเพราะหมาเข้าไป ก็จะไปจ่ายค่าเสียหายให้ตลอด ไม่น่าวางยาเบื่อฆ่าหมาอย่างโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้

คดีนี้มีพยานเป็นคนงานในสวนผู้เห็นเหตุการณ์ครับ จึงรู้ว่าเจ้าของไร่มันเป็นคนทำ เจ้าของหมาแจ้งร้องเรียน WDT กลัวคดีไม่คืบหน้า เหตุเจ้าของไร่มันมีลูกเขยเป็นตำรวจ!

WDT ประสานผู้กำกับ สภ.นิคมพัฒนา ช่วยดูแลกำกับคดี #เพราะไม่มีใครมีอำนาจเหนือไปกว่ากฎหมาย คดีทารุณกรรมสัตว์เป็นคดีของรัฐเป็นคดีอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความได้ และรัฐต้องดำเนินคดีไปจนถึงที่สุด หมามีเจ้าของสามารถเรียกร้องค่าเสียหายข้อหาทำให้เสียทรัพย์ได้

กรณีนี้เจ้าของพบว่าน้องหมาทั้งหมดตายอยู่ในพื้นที่ของตนหมายความว่า #มีการบุกรุกเข้ามาวางยาหมาด้วย ต้องแจ้งความบุกรุกเข้ามาอีกหนึ่งข้อหาครับ!

หมาไปสร้างปัญหาหรือทำลายทรัพย์สิน แจ้งเจ้าของเรียกค่าเสียหาย เป็นเรื่องทางแพ่ง อย่าไปฆ่าหมาอย่างโหดเหี้ยมด้วยการวางยาเบื่อ หรือกระทำใดๆ ให้หมาต้องตายอย่างทรมานเลยครับ ติดตามผลการดำเนินคดีฆ่าหมาอย่างโหดเหี้ยมคดีนี้ครับ

...

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ เป็นสวนทุเรียนขนาด 40 ไร่ มีรั้วลวดหนามรอบสวน พบกับสุนัข 2 ตัวกำลังวิ่งเล่นอยู่ภายในสวน ชื่อ "เจ้าบ๊อบ" สุนัขพันธุ์ไทย อายุ 4 เดือน และ "บุญรอด" สุนัขพันธุ์ไทย อายุ 2 ปี และเจ้าของสวน นายสมจิตร ผลาผล อายุ 67 ปี เจ้าของสุนัขดังกล่าว พร้อมกับ นายวีระ บุญชอบ อายุ 64 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์

นายวีระ เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. ช่วงที่เจ้าของสวนกลับบ้านไปแล้ว ขณะตนง่วนทำงานอยู่ในสวนนั้นได้เห็นรถกระบะคอก ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ ขับมาจอดบริเวณตรงต้นสักหน้าสวน

แล้วหมาทั้งสวน 14 ตัวก็วิ่งกันออกไป ตนก็เรียกหมากลับมา จนผ่านไปไม่กี่นาที พอหมาวิ่งกลับมาก็เกิดอาการน้ำลายฟูมปาก ขาสั่น ลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น อุจจาระแตก จนต้องรีบโทรหาเจ้าของสวนให้กลับมาพาหมาไปหาหมอทันที แต่ก็รอดมาได้แค่ 2 ตัว จาก 14 ตัว

ด้าน นายสมจิตร เจ้าของสวน บอกว่า ตนไม่อยากไปปรักปรำ หรือสงสัยใคร ให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สุนัขเหล่านี้ตนและครอบครัวเลี้ยงมาด้วยความรักมาก เวลาหมาเจ็บป่วยก็พาไปหาหมอตลอดไม่ว่าเจ็บเล็กเจ็บน้อย

เมื่อมาเจอคนมาทำแบบนี้ก็รู้สึกพูดไม่ออก มันเจ็บในอก อยากจะถามถึงคนลงมือทำว่าวางยาหมาตนทำไม มีอะไรก็พูดกันได้ ตนเลี้ยงหมาในที่ตนมีรั้วรอบ หากหมาตนไปสร้างความเดือดร้อนให้ใครก็ตามแต่ ตนคิดว่าน่าจะมาคุยกันได้ เพราะหมาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย จึงนำหลักฐานที่มีเข้าแจ้งความที่ สภ.นิคมพัฒนา ไว้แล้ว

นายสมจิตร ยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากสุนัขของตนที่โดนแล้ว ยังมีอีก 2 บ้านในละแวกเดียวกัน รวมแล้วทั้งหมดที่โดนวางยาแล้วตายไปเป็นจำนวน 19 ตัว การกระทำผิดอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้เกินมนุษย์มาก อยากให้คนทำมารับผิด และตอบกับสังคมเองว่าทำเพื่ออะไร จึงอยากวอนตำรวจช่วยนำตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.นิคมพัฒนา เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคดีทารุณกรรมสัตว์เป็นคดีอาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ หากได้ตัวคนกระทำก็จะต้องมีการดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด.

ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation - WDT

(ติดตามข่าวโซเชียล ในกระแส ทั้งหมดที่นี่)