เจาะลึกคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลักสูตรและความน่าสนใจของวิชาเรียน พร้อมไขคำตอบจบไปทำอะไรได้บ้าง
เรียกว่าช่วงนี้ เป็นช่วงที่ เด็ก67 กำลังมองหาที่คณะที่ใช่ ที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อเตรียมความพร้อม เดินเข้าสู่การเป็นนิสิต นักศึกษา ซึ่งหนึ่งในคณะที่น่าสนใจ ที่วันนี้อยากจะนำมาแนะนำคือ คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
สำหรับจุดเริ่มต้นของ ภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2518 โดยจัดตั้งเป็นโครงการบัณฑิตศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และเปิดรับนิสิตรุ่นแรกในปีการศึกษา 2518 จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่อเป็นโครงการสหวิทยาการบัณฑิตศึกษา สาขาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมในปี 2535 และก่อตั้งวิทยาลัยสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 12 ธันวาคม 2542 จากนั้นจึงเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็นภาควิชาวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะสิ่งแวดล้อม ในวันที่ 30 กรกฎาคม 2555

นายกิตติพิชญ์ นิมมา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขาการจัดการสิ่งแวดล้อม ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคณะและสาขาวิชาที่ตนศึกษาอยู่ในปัจจุบันว่า จุดเด่นของคณะสิ่งแวดล้อม คือการเรียนเรื่องเกี่ยวกับ ดิน ฟ้า อากาศ และสภาพแวดล้อม รวมไปถึงระบบนิเวศต่างๆ โดยคณะสิ่งแวดล้อมจะมีการแบ่งภาควิชาที่ชัดเจนเป็น 2 ภาควิชา คือ ภาควิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม และภาควิชาการจัดการสิ่งแวดล้อม
...
โดยมีหลักสูตร ดังนี้ หลักสูตรปริญญาตรี ได้แก่ วท.บ. (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม) และ วท.บ. (การจัดการสิ่งแวดล้อม)
- วท.บ. (วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม)
ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะ ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม เน้นการศึกษาพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีในการบำบัดมลพิษและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทั้งระบบนิเวศป่าไม้ ระบบนิเวศน้ำจืด ระบบนิเวศชายฝั่งและทางทะเล การจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงงานอุตสาหกรรม การสร้างกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการก๊าซเรือนกระจก การประเมินวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการบริหารและจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในการทำงานทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน
- วท.บ. (การจัดการสิ่งแวดล้อม)
ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้ ความสามารถ และทักษะทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เน้นการวิเคราะห์ระบบและประเมินสถานภาพสิ่งแวดล้อม การจัดการสิ่งแวดล้อมเชิงระบบ การสื่อสารความรู้เพื่อชุมชน และการทำงานเป็นทีม สามารถประยุกต์ใช้ความรู้ในการบริหารและจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศในการทำงานทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน
นอกจากนี้ ยังมีหลักสูตรปริญญาโท ได้แก่ วท.ม. (เทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม), วท.ม. (วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม) และหลักสูตรปริญญาเอก ได้แก่ ปร.ด. (เทคโนโลยีและการจัดการสิ่งแวดล้อม), ปร.ด. (วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม)

ในส่วนของภาควิชาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม จะเน้นศึกษาเกี่ยวกับผลการวิเคราะห์ผล เช่น ตัวอย่างไนโตรเจน ตัวอย่างน้ำ และตัวอย่างอากาศ โดยเน้นศึกษาในห้องแล็บเป็นส่วนใหญ่ ส่วนในภาควิชาการจัดการสิ่งแวดล้อมนั้น เน้นศึกษาในด้านการลงพื้นที่ เช่น การจัดการพื้นที่จริง การสำรวจและเก็บข้อมูลต่างๆ รวมถึงส่งผลไปยังหน่วยจัดเรียงข้อมูลและการวิเคราะห์ผล
กิจกรรมที่น่าสนใจในคณะสิ่งแวดล้อมมีอะไรบ้าง
นายกิตติพิชญ์ เล่าว่า ในช่วงที่เข้ามาเรียนปี 1-2 ตรงกับสถานการณ์โควิด-19 พอดี จึงทำให้ไม่ได้ลงพื้นที่มากนัก แต่เมื่อขึ้นปี 3-4 ก็จะได้รู้จักกับเนื้องาน ภาควิชาของตนเอง และได้มีโอกาสลงพื้นที่มากขึ้น ซึ่งตัวอย่างงานที่เคยได้ทำ ได้แก่ การตรวจวัดเสียงและสั่นสะเทือนบนรางรถไฟฟ้าสายสีเขียว รวมถึงลงไปติดตั้งเครื่องมือต่างๆ ของรถไฟฟ้าสายสีเขียวและเก็บข้อมูล จากนั้นจึงนำมาวิเคราะห์ผล ว่าผลที่ได้มาเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ สุดท้ายจึงนำมายื่นเสนอผล
นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่เก็บแบบสอบถาม Carbon Neutral Kasetsart Fair เช่น สอบถามเรื่องการเดินทาง สอบถามร้านค้าเรื่องการใช้น้ำ เพื่อนำไปคำนวณคาร์บอนเครดิต รวมไปถึงการลงพื้นที่สอบถามชุมชน และทำความเข้าใจกับชุมชน เพื่อหาว่าชุมชนนั้นมีปัญาหาเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือไม่ โดยการลงพื้นที่จะเป็นชุมชนที่อยู่ใกล้โครงการที่ทำ Environmental Impact Assessment Division (EIA) จากนั้นเก็บแบบสอบถาม เพื่อนำมาหามาตรการในการบรรเทาผลกระทบต่างๆ อีกด้วย

เด็กคณะสิ่งแวดล้อม สามารถไปฝึกงานที่ไหนได้บ้าง?
ความน่าสนใจของการเรียนคณะนี้จะเน้นไปที่การลงพื้นที่ เพราะในช่วงฝึกประสบการณ์วิชาชีพของมหาวิทยาลัย ก็จะได้ไปฝึกงานที่ต่างจังหวัด แต่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล เพราะคณะสิ่งแวดล้อมสามารถฝึกประสบการณ์วิชาชีพได้ทุกหน่วยงาน ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชน หรือรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถฝึกงานได้ เพราะทุกองค์กรต้องให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม จึงต้องการผู้ดูแลและจัดการเกี่ยวกับเรื่องสิ่งแวดล้อมในหน่วยงาน
ในส่วนของโครงงานวิจัยเอง สามารถทำได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของน้ำ อากาศ ดิน การนำของเสียมาใช้ประโยชน์ หรือการคำนวณคาร์บอนเครดิตจากการเดินทางก็ได้เช่นกัน
จบมาทำงานอะไร
นายกิตติพิชญ์ ได้ให้คำตอบว่า หากเรียนจบจากคณะสิ่งแวดล้อม สามารถประกอบอาชีพได้ทุกประเภทที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือหากใครที่มีความสนใจในด้านงานอื่นๆ ก็สามารถศึกษาต่อเพื่อเอาใบเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน กฎหมายของประเทศไทย (จป.) ไปทำงานในองค์กรต่างๆ ที่ต้องการเรื่องความปลอดภัย โดยส่วนมากมักจะทำงานอยู่ในโรงงาน หรือเป็นนักวิจัยในห้องแล็บของภาครัฐและเอกชน หน่วยงานที่ต้องการคำปรึกษา หรือการทำเอกสาร และรายงานต่างๆ เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต

แนะนำคนที่อยากเรียนคณะสิ่งแวดล้อม
ฝากถึงน้องๆ ที่จะเข้ามาเรียนคณะนี้ ให้ติดตามข่าวสารจากเฟซบุ๊กของ คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อติดตามเกณฑ์การรับสมัคร และอยากให้น้องๆ ทุกคน เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม เพราะคณะสิ่งแวดล้อมเน้นการลงพื้นที่ไปยังชุมชนต่างๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทักษะการสื่อสารเป็นหลัก และเน้นการเรียนวิชาเคมีเป็นส่วนมาก มีการเรียนวิชาเคมี ถึง 5 ตัว จำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจ และความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะหลายๆ คนอาจเข้าใจผิดว่าคณะสิ่งแวดล้อมจะได้เรียนชีววิทยาเป็นส่วนมาก แต่ความจริงแล้วเรียนชีวะแค่ตัวเดียวเท่านั้น
นอกจากนี้อยากให้น้องๆ ที่จะเข้าคณะนี้มีความชอบ และสนใจจริง เพราะจะทำให้เรียนเข้าใจ และสนุกไปกับการเรียน หากไม่ได้สนใจและไม่ได้ชื่นชอบจริงๆ แล้วนั้น อาจทำให้น้องๆ ต้องเสียเวลาในการเปลี่ยนคณะ อยากแนะนำสายลุยที่ชอบลงพื้นที่ให้เลือกเรียนภาคการจัดการสิ่งแวดล้อม แต่ถ้าน้องๆ ชอบการทำงานอยู่ในห้องแล็บ หรือเน้นสายวิทยาศาสตร์ ให้เลือกภาควิทยาศาสตร์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม.
ข้อมูลอ้างอิง http://www.envi.ku.ac.th