ตำรวจคุมตัว "ผู้โดยสาร" เปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินไปสอบแล้ว เบื้องต้นตั้ง 2 ข้อหา พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยผู้ก่อเหตุอ้าง ทำเพื่อหนีคนที่จะตามทำร้าย
จากกรณีที่เมื่อเวลา 22.05 น. ของวันที่ 7 ก.พ. 2567 ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินเชียงใหม่ว่า เที่ยวบินของสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG121 เส้นทางเชียงใหม่-สุวรรณภูมิ ทำการบินด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 ขณะเครื่องบินอยู่ระหว่างเตรียมทำการวิ่งขึ้น มีผู้โดยสารเปิดประตูเครื่องบิน ทำให้เบาะสไลด์กาง ส่งผลให้อากาศยานไม่สามารถทำการบินได้ และจอดค้างอยู่กลางทางวิ่ง (Runway) เที่ยวบินอื่นๆ ไม่สามารถทำการขึ้น–ลง ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ชั่วขณะ
ซึ่งสามารถออกเดินทางได้อีกครั้งในเวลา 00.43 น. ของวันที่ 8 ก.พ. 2567 โดยมีเที่ยวบินได้รับผลกระทบทั้งหมด 13 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินวนรอขาเข้าจำนวน 8 เที่ยวบิน เที่ยวบินขาออกจำนวน 3 เที่ยวบิน และเที่ยวบิน Divert จำนวน 2 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารได้รับผลกระทบทั้งสิ้น 2,296 คน ดังที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
...
ล่าสุดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนจะคุมตัวผู้ก่อเหตุ MR. WONG SAI HEUNG อายุ 40 ปี เชื้อชาติจีน สัญชาติแคนาดา อายุ 40 ปี อาชีพวิศวกรคอมพิวเตอร์ มาสอบสวน พร้อมตรวจหาสารเสพติด ที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยขณะที่ตำรวจได้ควบคุมตัวมาสอบสวน ผู้สื่อข่าวได้ตะโกนถามว่า ทำไมถึงก่อเหตุ ซึ่งผู้ต้องหาบอกว่าจะมีคนมาทำร้าย จึงได้เปิดประตูเพื่อจะหนี
ด้าน พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ น้อยสอน รอง ผกก สส. ภูพิงคราชนิเวศน์ กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุเปิดประตูฉุกเฉินจริง เนื่องจากคิดว่ามีกลุ่มขบวนการใต้ดินมีการติดตามเขา ซึ่งเขาคิดว่าจะเป็นอันตรายต่อเขา และคิดว่าเครื่องบินด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร เขาอาจถูกยิงได้ จึงได้เปิดประตูฉุกเฉินเพื่อที่จะหนีจึงได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
สำหรับผู้ต้องหารายนี้เดินทางมาด้วยรถไฟ เพื่อมาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อที่ 3 ก.พ. 67 และ (เมื่อวานนี้ 7 ก.พ. 67) กำลังจะเดินทางขึ้นเครื่องบินไปลงยังสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อต่อเครื่องบินกลับประเทศแคนาดา แต่ก็มาก่อเหตุและถูกจับกุมก่อน เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา
(1) กระทำด้วยประการใดๆ ให้อากาศยานอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคล ตาม ป.อาญา มาตรา 232 (1)
(2) เป็นผู้อยู่ในอากาศยานระหว่างการบิน ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ควบคุมอากาศยาน หรือเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยาน ซึ่งสั่งในนามผู้ควบคุมอากาศยาน (เปิดประตูฉุกเฉินเครื่องบินโดยไม่มีเหตุอันควร) ที่สั่งเพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่อากาศยานหรือแก่บุคคลหรือทรัพย์สินในอากาศยาน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 มาตรา 7 วรรค 2
นอกจากนี้ ทางพนักงานสอบสวน จะได้ประสานสายการบินไทยเข้าแจ้งความเพิ่มเติม หากพบความเสียหายเกิดขึ้นกับอากาศยาน รวมทั้งความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดจากการกระทำของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้มีคัดค้านการประกันตัว โดยจะมีการส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ในวันพรุ่งนี้.