หนุ่มเปิดใจ หลังขอรับบริจาค "เครื่องดนตรี" ช่วยเติมฝันให้ "เด็กนักเรียน" ที่ไม่มีความพร้อม บอกไม่คิดว่าคนจะให้ความสนใจมากขนาดนี้
วันที่ 31 มกราคม 2567 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราว จากผู้ใช้เฟซบุ๊ก สุรศักดิ์ อยู่คง ที่โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า #ประกาศๆ มีเด็กอยู่โรงเรียนหนึ่งในเพชรบุรี มีอยู่ 13 คน (ทั้งโรงเรียน) น้องอยากเล่นดนตรี และท่านรักษาการ ผอ. ท่านได้เห็นความสำคัญของตรงนี้ แต่ติดตรงเครื่องดนตรีของโรงเรียนไม่มีความพร้อมเลย (เพื่อนๆ พี่ๆ คนไหน มีใจเมตตาน้อง มีเครื่องดนตรีที่ไม่ได้ใช้ จะมอบให้ผมยินดีนะครับ) ถ้าบริจาคเป็นเงินผมยังขอไม่รับนะครับ ฝากแชร์ด้วยนะครับช่วยกันสานฝันให้น้องๆ กัน
หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็คนเข้ามาแสดงความคิดเห็น และร่วมบริจาคเครื่องดนตรีให้เป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือ โอ๊ต-ปราโมทย์ ศิลปินชื่อดังที่ได้บอกว่า จะให้เลขาติดต่อไป
...
ในขณะที่คนใจบุญคนอื่นๆ ก็ได้เสนอความช่วยเหลือหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเครื่องดนตรีไทย เครื่องดนตรีสากล โน้ตเพลงเพื่อการเรียนการสอน รวมถึงอาสาไปช่วยสอน และซ่อมเครื่องดนตรีให้กับเด็กๆ ทำให้ต่อทางผู้โพสต์ได้แจ้งขอปิดรับบริจาค เนื่องจากมีผู้ประสงค์ให้ความช่วยเหลือน้องๆ เพียงพอแล้ว
ต่อมา คุณสุรศักดิ์ อยู่คง ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าวได้เปิดใจกับ "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" โดยระบุว่า กลุ่มเด็กนักเรียนดังกล่าว มีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง ตั้งแต่ชั้น ป.1-ป.6 ใจจริงสิ่งที่โพสต์ หวังแค่กลุ่มนักดนตรีไทยเล็กๆ ที่จะช่วยกัน ไม่คิดว่าคนจะให้ความสนใจมากขนาดนี้
ความรู้สึกผม ดีใจแทนเด็กๆ รุ่นนี้ และก็ยังหวังว่าเด็กรุ่นนี้จะมีคนส่งเสริมต่อไป และให้โอกาสเขาได้เรียนต่อในที่ดีๆ โดยอาจใช้ความสามารถพิเศษตรงนี้ไปสอบเข้าได้ และก็อยากให้โรงเรียนนี้อย่าถูกยุบ ไม่งั้นครอบครัวที่เข้าไม่ค่อยมี ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอีกเยอะเลย
เพื่อให้น้องๆ ต้องไปเรียนไกล เช่น ค่าเทอมแพงๆ ค่ารถประจำ ค่ากิน ค่าชุดการแต่งกาย (เพราะถ้าแต่งกายไม่เหมือนเพื่อน ก็จะมองเป็นแกะดำในโรงเรียน) อยากขอให้ช่วยให้ชุมชน เข้ามาสนับสนุนโรงเรียนนี้ด้วย ตอนนี้เด็กๆ ดีใจมาก แค่รู้ว่ามีคนมองเห็นเขาแล้ว
ทั้งยังบอกว่า "สิ่งที่ผมจะฝากถึงสังคมนะครับ อยากให้ทุกๆ โรงเรียนมีความเท่าเทียมกัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูจริงๆ ครับว่าปัญหาคืออะไร นี่โรงเรียนเล็กเด็กน้อย แถมยังต้องหาเงินจ้างครูเองอีก คำหนึ่งที่เด็กที่นี่พูดน่ะ ผมจะไปทำอะไรกันได้เตะฟุตบอลยังไม่ครบทีมเลย จะไปเรียนอื่นผู้ปกครองครอบครัวก็ไม่พร้อม "
อย่างไรก็ตาม ทางรักษาการของ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ได้แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 2 ให้การสนับสนุนส่งเสริมตลอด แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการ.
ขอบคุณข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก สุรศักดิ์ อยู่คง